บริการรับทำบัญชีธุรกิจท่องเที่ยว & ที่พัก ครบวงจร

ให้บริการรับทำบัญชีธุรกิจโรงแรม ที่พัก และการท่องเที่ยว ที่ปัจจุปันคือหนึ่งในอุตสาหกรรมหลัก ที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทย แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นธุรกิจที่ซับซ้อน มีรายละเอียดเฉพาะตัวทั้งในด้านการรับรู้รายได้ การจัดสรรต้นทุน และการจัดการภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

การมีบริการบัญชีเฉพาะทางสำหรับธุรกิจท่องเที่ยว จึงไม่ใช่แค่ความสะดวกแต่คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนภาษีการเงิน ลดความเสี่ยงและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

บทความนี้ จะพาคุณเข้าใจว่า “บัญชีสำหรับธุรกิจโรงแรมและที่พัก” ต้องมีอะไรบ้าง แตกต่างจากธุรกิจอื่นอย่างไร ควรดูแลอย่างไรให้ถูกต้อง และควรเลือกใช้บริการรับทำบัญชีแบบไหน ที่จะตอบโจทย์ธุรกิจคุณได้ครบวงจร

ปรึกษา บริการทำบัญชีภาษี คลิก

จุดเริ่มต้นที่หลายธุรกิจมองข้ามระบบบัญชีไม่เหมาะกับธุรกิจท่องเที่ยว

โรงแรมและที่พักจำนวนมาก เริ่มต้นธุรกิจจากความเชี่ยวชาญด้านบริการ แต่กลับไม่มีประสบการณ์ด้านการเงินและบัญชี ทำให้เกิดปัญหาตามมาหลายประการ เช่น

• การบันทึกรายได้ไม่ตรงกับรอบการให้บริการจริง (เช่นรับเงินล่วงหน้าแต่ยังไม่ได้ให้บริการ)
• ไม่แยกรายได้จากห้องพัก อาหาร บริการเสริม
• ไม่คำนวณค่าเสื่อมของทรัพย์สินอย่างถูกต้อง เช่น เฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้ไฟฟ้า
• ละเลยต้นทุนแฝง เช่น ค่าคอมมิชชั่น OTA (Agoda, Booking.com ฯลฯ)
• ไม่จัดการภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อย่างถูกต้องโดยเฉพาะเมื่อต้องเก็บภาษีจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ

สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้ธุรกิจเสียโอกาสในการวางแผนกำไร ลดภาษีอย่างชาญฉลาด และเสี่ยงต่อการถูกตรวจสอบย้อนหลัง จากกรมสรรพากร

บัญชีธุรกิจโรงแรมและที่พัก ทำไมต้อง “เฉพาะทาง”

ธุรกิจท่องเที่ยวและที่พักมีลักษณะเฉพาะ ที่ทำให้การทำบัญชีแตกต่างจากธุรกิจประเภทอื่นโดยเฉพาะ

รายได้หลากหลายช่องทาง

• รายได้จากห้องพัก (Walk-in / Online Booking / Website)
• รายได้จาก OTA (เช่น Agoda, Booking.com, Airbnb)
• รายได้จากอาหารเช้า, Mini bar, Spa, บริการซักรีด ฯลฯ
• รายได้จากกิจกรรมเสริม เช่น ทัวร์, รถรับส่ง

แต่ละช่องทางมีระบบการชำระเงิน เงื่อนไขการโอนเงิน และค่าคอมมิชชั่นที่ต่างกัน ต้องบันทึกบัญชีแยกให้ชัดเจน

ฤดูกาล (Seasonality) มีผลต่อรายรับและต้นทุน

• ช่วง High Season รายได้สูง ค่าแรงพนักงานเพิ่มขึ้น
• ช่วง Low Season รายได้ลด แต่ต้นทุนคงที่บางส่วนยังอยู่เช่น ค่าเช่า, ค่าประกันภัย

บัญชีต้องสามารถ “กระจายต้นทุน” ให้สะท้อนความจริงและใช้ข้อมูลนี้วางแผนการเงินให้รอดทั้งปี

ทรัพย์สินถาวร และค่าเสื่อม

โรงแรมและที่พักลงทุนสูงในสิ่งปลูกสร้าง เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก บัญชีต้องคำนวณ ค่าเสื่อมราคาทรัพย์สิน อย่างถูกต้องเพื่อ

• วางแผนซ่อมบำรุง
• เตรียมงบประมาณเปลี่ยนอุปกรณ์
• บริหารภาษีให้ประหยัด

ภาษีที่เกี่ยวข้องมีหลายประเภท

• ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หากรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท/ปี ต้องจด VATและออกใบกำกับภาษีที่ถูกต้อง
• ภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50) ต้องยื่นปีละ 1 ครั้งและยื่นครึ่งปี (ภ.ง.ด.51)
• ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด.3/53) เช่น ค่าจ้างทำความสะอาดค่าบริการรับเหมา
• ภาษีท้องถิ่น เช่น ค่าธรรมเนียมป้าย, ภาษีโรงเรือน

บริการบัญชีที่ดีต้องเข้าใจ “ภาระภาษี” เหล่านี้ครบถ้วนเพื่อช่วยให้เจ้าของกิจการ วางแผนล่วงหน้า และลดความเสี่ยงทางภาษี

ปรึกษา บริการทำบัญชีภาษี คลิก

องค์ประกอบของบริการบัญชีสำหรับโรงแรมและที่พักที่ดี

หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยด้านบัญชีสำหรับธุรกิจที่พักของคุณนี่คือบริการที่ควรมี

วางระบบบัญชีเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว

• จัดหมวดหมู่รายได้–รายจ่าย ให้เหมาะกับธุรกิจที่พัก
• กำหนด “แผนผังบัญชี” (Chart of Accounts) ที่รองรับรายรับหลายรูปแบบ
• สร้างระบบการบันทึกบัญชีที่รองรับ OTA, Walk-in, Website

บริการจัดทำบัญชีรายเดือน

• บันทึกบัญชีรายรับ–รายจ่าย พร้อมจัดทำงบทดลอง
• จัดทำรายงานภาษีซื้อ–ขาย
• ยื่นภาษี VAT, ภ.ง.ด.1, 3, 53
• ส่งรายงานให้เจ้าของกิจการทุกเดือน

วางแผนภาษีประจำปี

• คำนวณกำไรสุทธิและประมาณภาษีเงินได้นิติบุคคล
• ให้คำแนะนำในการวางแผนค่าใช้จ่าย ลดภาษีโดยชอบด้วยกฎหมาย
• เตรียมเอกสารและยื่นแบบ ภ.ง.ด.50, ภ.ง.ด.51

ปรึกษากฎหมายธุรกิจ–ภาษีที่เกี่ยวข้อง

• การขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรม
• การจดทะเบียน VAT
• ข้อควรระวังด้านการออกเอกสารใบกำกับภาษี
• ค่าบริการ OTA ที่ต้องหักภาษีหรือไม่

วิเคราะห์ผลประกอบการ

• วิเคราะห์ต้นทุนต่อห้อง / ต่อผู้เข้าพัก
• เปรียบเทียบรายได้ระหว่างช่องทาง Walk-in กับ OTA
• รายงาน KPIs สำคัญ เช่น Occupancy Rate, ADR,RevPAR

บริการบัญชีที่ “ช่วยให้โรงแรมมีกำไร” ไม่ใช่แค่บันทึกบัญชี

สำนักงานบัญชีที่เชี่ยวชาญด้านธุรกิจที่พัก ไม่ใช่แค่คนทำบัญชีแต่ต้องเป็นที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ได้ด้วย

วิเคราะห์ว่า รายได้ของคุณมาจากช่องทางใดมากที่สุด

ช่วยตรวจสอบสัดส่วนรายได้จาก Walk-in, OTA, เว็บไซต์หรือช่องทางอื่น เพื่อให้คุณวางแผนการตลาดได้แม่นยำขึ้น

แนะนำการควบคุมต้นทุนที่คุ้มค่า เช่น ค่าแม่บ้าน, ค่าอาหาร

เสนอแนวทางเปรียบเทียบต้นทุน ต่อผู้เข้าพัก พร้อมแนะนำจุดที่สามารถลดค่าใช้จ่ายโดยไม่กระทบคุณภาพบริการ

แจ้งเตือนเมื่อใกล้ครบกำหนดยื่นภาษีหรือชำระภาษี

ลดความเสี่ยงโดนเบี้ยปรับ ด้วยระบบแจ้งเตือนล่วงหน้าทุกเดือน พร้อมเตรียมเอกสารให้ครบก่อนวันกำหนด

ช่วยมองภาพธุรกิจจากงบการเงิน

แปลข้อมูลทางบัญชีให้ง่ายต่อการตัดสินใจ เช่น รายได้โตหรือไม่ ต้นทุนพุ่งขึ้นตรงไหน กำไรแท้จริงเป็นอย่างไร

แนะนำการจดทะเบียนใหม่ (กรณีรีแบรนด์/ขยายสาขา)

วางแผนรูปแบบธุรกิจให้เหมาะสมกับการเติบโต เช่น การตั้งนิติบุคคลใหม่ หรือปรับโครงสร้างภาษีให้คุ้มค่ากว่าเดิม

ปัญหาที่มักเกิดในธุรกิจที่พัก (และวิธีแก้ไขทางบัญชี)

❌ OTA โอนเงินไม่ตรงรอบ – รายรับไม่ตรงงบ

✅ แยกบัญชี OTA แต่ละช่องทาง สร้างบัญชีพักเงินก่อนโอนจริง

✅ ตรวจสอบยอดรายรับกับระบบจอง

❌ ค่าใช้จ่ายหลุดบันทึก – ต้นทุนจริงสูง

✅ จัดระบบเก็บใบเสร็จ + สอนพนักงานบันทึกเบื้องต้น

✅ ใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์ที่แชร์กันได้

❌ หักภาษีไม่ถูก – โดนเบี้ยปรับ

✅ ให้สำนักงานบัญชีออกใบหัก ณ ที่จ่ายแทน

✅ ตรวจเช็กล่วงหน้าว่า รายการใดต้องหัก (แม่บ้าน, outsource, OTA ฯลฯ)

ตัวอย่างธุรกิจโรงแรมที่ประสบความสำเร็จด้วยระบบบัญชีที่ดี

“โฮมสเตย์” ในจังหวัดน่าน เดิมทีใช้วิธีจดบันทึกบัญชีแบบ Excel และให้ลูกพี่ลูกน้อง ช่วยทำภาษี แต่เมื่อขยายสาขา และเพิ่มการจองผ่าน OTA รายการเงินเข้า–ออกเริ่มไม่ตรง

หลังจากปรับมาใช้บริการบัญชีแบบครบวงจร

1. ได้วางระบบบัญชีที่แยกรายรับตามช่องทาง
2. ต้นทุนที่ไม่จำเป็นถูกลดลง เช่น ค่าซ้ำซ้อน
3. รายงานภาษีถูกต้อง ยื่นทันเวลา
4. ได้รับคำแนะนำลดภาษีปลายปี และวางแผนลงทุนใหม่

ปัจจุบันติบโตต่อเนื่อง มีแผนขยายอีก 2 สาขา พร้อมรับคำปรึกษาจากสำนักงานบัญชีตลอดทาง

ปรึกษา บริการทำบัญชีภาษี คลิก

เลือก “บริการบัญชี” แบบไหน…จึงจะเหมาะกับธุรกิจที่พักของคุณ?

หากคุณมีโรงแรม รีสอร์ต หรือที่พัก ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ควรเลือกผู้ให้บริการบัญชีที่

✅ มีประสบการณ์ในธุรกิจที่พักโดยตรง

✅ เข้าใจโครงสร้างรายได้หลายช่องทาง

✅ วางระบบบัญชีใหม่ให้ได้ หากไม่มีระบบเดิม

✅ อัปเดตกฎหมายภาษีท่องเที่ยวเสมอ

✅ มีบริการให้คำปรึกษารายเดือน / รายไตรมาส

✅ สามารถยื่นภาษี และประสานงานกับสรรพากรได้ในนามคุณ

การใช้โปรแกรมบัญชีสำหรับธุรกิจโรงแรม & ที่พัก

การใช้ โปรแกรมบัญชีที่เหมาะสมกับธุรกิจโรงแรม และที่พัก จึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เจ้าของกิจการสามารถควบคุมการเงินได้อย่างมืออาชีพ ตั้งแต่ระดับห้องพัก จนถึงรายงานภาษีปลายปี โปรแกรมบัญชีที่ดีควรสามารถ

• เชื่อมต่อกับระบบจองห้องพัก (PMS – Property ManagementSystem)
• รองรับรายได้หลายช่องทาง ทั้ง Walk-in, OTA, Website
• แยกหมวดรายได้จากบริการอื่น เช่น อาหาร, ทัวร์, รถรับส่ง
• บันทึกต้นทุนคงที่ และต้นทุนแปรผัน อย่างเป็นระบบ
• ออกรายงานภาษีมูลค่าเพิ่ม, ภาษีหัก ณ ที่จ่าย, งบการเงินรายเดือน
• แชร์ข้อมูลกับสำนักงานบัญชีได้แบบเรียลไทม์

ตัวอย่างโปรแกรมที่เหมาะสม เช่น TRCloud, PEAK, Express หรือระบบที่มี API เชื่อมกับ PMS ได้โดยตรงจะช่วยลดความผิดพลาด จากการบันทึกมือ และเพิ่มความสามารถในการตัดสินใจ จากข้อมูลจริงแบบทันที

สรุป บัญชีที่ดี คือรากฐานของธุรกิจที่พักที่มั่นคง

การบริหารธุรกิจท่องเที่ยว และที่พัก ไม่ได้จบแค่การให้บริการลูกค้าอย่างดีเท่านั้น แต่ต้องรวมถึง “การบริหารหลังบ้าน” โดยเฉพาะการทำบัญชีและภาษีที่ถูกต้อง และเหมาะสม หากคุณมีพันธมิตรที่เข้าใจธุรกิจคุณ สามารถให้คำแนะนำได้ตรงจุด วางแผนได้อย่างรอบด้าน คุณจะไม่ใช่แค่ "ทำธุรกิจ" แต่จะ"บริหารธุรกิจ" อย่างมืออาชีพ

หากคุณเป็นเจ้าของโรงแรม รีสอร์ต ที่พักหรือกำลังเริ่มต้นธุรกิจท่องเที่ยวและกำลังมองหาผู้ช่วยด้านบัญชีที่เชี่ยวชาญเฉพาะธุรกิจของคุณ

สำนักงานบัญชี พีทูพี พร้อมดูแลแบบครบวงจร

วางระบบบัญชี | ทำบัญชีรายเดือน | ยื่นภาษี |วางแผนภาษีธุรกิจที่พัก| ปรึกษาฟรี

ปรึกษา บริการทำบัญชีภาษี คลิก