โปรแกรมบัญชีที่เหมาะสำหรับ SMEs ธุรกิจขายออนไลน์
ธุรกิจขายออนไลน์ในยุคนี้ เติบโตเร็ว และแข่งขันสูง แต่การจัดการบัญชีเป็นเรื่องที่หลาย SME มักมองข้ามหรือเลือกโปรแกรมบัญชีที่ไม่ตอบโจทย์ ส่งผลให้เกิดปัญหาจุกจิก เช่นรายรับรายจ่ายคลาดเคลื่อน ภาษีซื้อ/ภาษีขายผิด หรือเสียเวลาแก้ไขบัญชีย้อนหลัง
ถ้าคุณกำลังมองหา "โปรแกรมบัญชีที่เหมาะสำหรับ SMEs ธุรกิจขายออนไลน์" ที่มีฟีเจอร์ครบ ใช้งานง่าย และราคาจับต้องได้ บทความนี้ สำนักงานบัญชี พีทูพี จะช่วยคุณเข้าใจว่าควรมองหาอะไร วิธีเลือกโปรแกรมให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ และรีวิวโปรแกรมยอดนิยมที่ SME ไทยใช้จริง เพื่อให้คุณตัดสินใจได้มั่นใจ และทันสถานการณ์
เพิ่มความมั่นใจให้ธุรกิจออนไลน์ด้วยโปรแกรมบัญชีที่ตอบโจทย์จริง
เริ่มต้นใช้งานกับทีมบัญชีพีทูพีโปรแกรมบัญชี SME คืออะไร และควรมีฟีเจอร์อะไร
ก่อนจะเลือกโปรแกรมบัญชี การเข้าใจว่า"โปรแกรมบัญชีร้านค้าออนไลน์ / โปรแกรมบัญชี SME" ควรทำอะไรได้บ้างจะช่วยให้คุณไม่ตกเป็นเหยื่อของโปรแกรมที่ดูดีแต่ใช้จริงไม่ได้
ฟีเจอร์สำคัญที่ต้องมี ได้แก่
- การเชื่อมต่อกับหลายช่องทางขาย เช่น Shopee,Lazada, Facebook, Instagram หรือ Marketplace ต่าง ๆ เพื่อดึงข้อมูลยอดขายโดยอัตโนมัติ
- ระบบสต็อก / คลังสินค้าที่อัปเดตทันทีเมื่อมีการขาย ลดปัญหาสินค้าขาดหรือล้น
- การออกเอกสารทางบัญชี เช่น ใบกำกับภาษีใบเสร็จ ใบเสนอราคา ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
- ระบบบัญชีพื้นฐาน เช่น บัญชีแยกประเภทงบการเงิน รายงานภาษี ภ.ง.ด. และ VAT ที่สามารถสรุปได้เป็นรายเดือนหรือรายปี
- การใช้งานผ่านคลาวด์ หรือแอปมือถือเพื่อเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่
- ฟีเจอร์เสริม เช่นการเชื่อมต่อกับบัญชีธนาคาร อัปโหลดใบเสร็จ แจ้งเตือนกำหนดชำระ รองรับหลายผู้ใช้ฯลฯ
- ความปลอดภัยของข้อมูล และระบบสำรองข้อมูล
- ราคาที่เหมาะสมกับขนาดธุรกิจและการเติบโตในอนาคต
ปรึกษาเรื่องโปรแกรมบัญชี คลิก
โปรแกรมบัญชียอดนิยมที่ SME ไทยใช้
1. FlowAccount
- ใช้งานง่าย เหมาะกับผู้ประกอบการ SME และร้านค้าออนไลน์
- รองรับการออกเอกสารทางบัญชี เช่น ใบกำกับภาษี ใบเสร็จ ใบเสนอราคา
- มีฟีเจอร์บนมือถือ ช่วยให้ตรวจสอบและออกเอกสารได้ทุกที่
- เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการความยืดหยุ่นและการจัดการบัญชีเบื้องต้นที่ครบถ้วน
2. SMEMOVE
- โปรแกรมบัญชีออนไลน์ที่ให้บริการฟรีเหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่เริ่มต้น
- มีฟีเจอร์พื้นฐาน เช่น บันทึกรายรับรายจ่าย ออกเอกสารสำคัญทางบัญชี
- อัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์ ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการทดลองระบบก่อนซื้อโปรแกรมที่มีฟีเจอร์ขั้นสูง
3. PEAK
- ออกแบบมาสำหรับ SME ที่ต้องการฟีเจอร์มากกว่าโปรแกรมพื้นฐาน
- รองรับ VAT, ภาษีหัก ณ ที่จ่าย และรายงานภาษีครบถ้วน
- มีแดชบอร์ดสำหรับการวิเคราะห์ธุรกิจ
- ราคาคุ้มค่าเหมาะกับธุรกิจที่กำลังขยายตัวและต้องการระบบบัญชีที่ละเอียดขึ้น
บริหารบัญชีและภาษีอย่างเป็นระบบ ด้วยซอฟต์แวร์มาตรฐานที่ทีมมืออาชีพเลือกใช้
ปรึกษาทีมบัญชีพีทูพี4. Express
- โปรแกรมบัญชีที่เป็นที่นิยมในไทยมาอย่างยาวนาน
- เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการความเสถียรและรองรับการทำงานเชิงลึกด้านบัญชี
- ครอบคลุมตั้งแต่การขาย การซื้อ สต็อกสินค้า ไปจนถึงการทำงบการเงิน
- แม้จะไม่ใช่โปรแกรม Cloud แต่มีฟังก์ชันครบถ้วนและเป็นที่ยอมรับจากผู้สอบบัญชีและนักบัญชีมืออาชีพ
- เหมาะกับธุรกิจที่มีการทำบัญชีซับซ้อน ต้องการมาตรฐานที่มั่นคง
5. Xero / QuickBooks
- เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีการซื้อขายหลายประเทศหรือมีการทำงานหลายสกุลเงิน
- มีฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น การจัดการบัญชีหลายบริษัทการทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์อื่นผ่าน API
- เหมาะกับธุรกิจ e-commerce ที่ต้องการระบบบัญชีสากลรองรับการทำงานระดับนานาชาติ
- ราคาสูงกว่าระบบที่ออกแบบมาสำหรับตลาดไทย แต่ฟีเจอร์ครอบคลุมกว่า
การเลือกโปรแกรมบัญชี ควรขึ้นอยู่กับขนาดธุรกิจ ความซับซ้อนในการทำบัญชี และงบประมาณ หากธุรกิจยังเล็กโปรแกรมฟรี หรือราคาย่อมเยา อาจเพียงพอแต่ถ้าต้องการขยายธุรกิจ และทำงานอย่างมืออาชีพ การเลือกโปรแกรมที่รองรับภาษี และสต็อกครบถ้วนจะช่วยให้ทำงานได้ง่ายขึ้น
ปรึกษาเรื่องโปรแกรมบัญชี คลิก
วิธีเลือกโปรแกรมบัญชีให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ
สิ่งที่ควรถามก่อนเลือก คือ
- ธุรกิจของคุณขายผ่านช่องทางใดบ้าง (ออนไลน์ /หน้าร้าน / หลายแพลตฟอร์ม)
- มีการใช้สต็อกหรือไม่ต้องการควบคุมคลังสินค้าหรือเปล่า
- ออกเอกสารทางบัญชีอะไรบ้าง(มี VAT / หัก ณ ที่จ่าย หรือไม่)
- งบประมาณต่อเดือน/ปีสำหรับระบบบัญชีอยู่ในระดับใด
- ต้องการใช้งานหลายคนหรือไม่
- ต้องการให้ระบบเติบโตได้หรือเปล่า เช่นเพิ่มสาขา เพิ่มพนักงานบัญชีในอนาคต
เคสตัวอย่างการใช้งานจริง
ร้านขายอาหารแปรรูปออนไลน์ เริ่มจากขายผ่าน Shopee และ Facebook ใช้ FlowAccount เพื่อออกใบกำกับภาษี และเชื่อมกับระบบการโอนเงินของธนาคาร หลังจากนั้นเมื่อธุรกิจเติบโตขึ้นมีพนักงานมากขึ้น จึงอัปเกรดระบบให้รองรับหลายผู้ใช้ และเพิ่มระบบคลังสินค้าเพื่อควบคุมวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ
อีกตัวอย่างคือร้านเสื้อผ้าออนไลน์ ที่ใช้ SMEMOVE เพราะต้องการประหยัดต้นทุนใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน และมีรายงานภาษีให้พร้อมใช้เมื่อถึงรอบยื่นแบบ
ข้อควรระวัง
- โปรแกรมบางตัวไม่รองรับรูปแบบภาษีไทย เช่นภาษีหัก ณ ที่จ่าย หรือรูปแบบใบกำกับภาษีที่กรมสรรพากรรองรับ
- บางระบบแม้เริ่มต้นฟรีแต่มีค่าบริการเสริมที่แอบแฝง เช่น ค่าเก็บข้อมูลเพิ่ม ค่าผู้ใช้เพิ่มเติมหรือค่ารายงานเฉพาะทาง
- การใช้งานระบบที่ไม่เสถียรหรือไม่มีทีมสนับสนุนที่ดี อาจทำให้เสียเวลาโดยไม่จำเป็น
ใช้เทคโนโลยีสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้ธุรกิจออนไลน์เดินหน้าได้อย่างคล่องตัว
รับคำแนะนำสร้างสรรค์เทียบชัด โปรแกรมบัญชีฟรี vs โปรแกรมเสียเงินสำหรับร้านค้าออนไลน์ SME แบบไหนคุ้มกว่ากัน?
เมื่อพูดถึงโปรแกรมบัญชีสำหรับธุรกิจ SME โดยเฉพาะร้านค้าออนไลน์ที่เริ่มต้นใหม่คำถามยอดฮิตคือ ควรเลือกใช้ โปรแกรมบัญชีฟรี หรือ โปรแกรมบัญชีแบบเสียเงินดีกว่ากัน? คำตอบไม่มีสูตรตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับขนาดธุรกิจความซับซ้อนในการทำบัญชี และเป้าหมายในระยะยาวของผู้ประกอบการ
จุดเด่นของโปรแกรมบัญชีฟรี
โปรแกรมบัญชีฟรี เช่น SMEMOVE, โปรแกรมบัญชี Excelสำเร็จรูปหรือ Google Sheet Template มีข้อดีตรงที่ไม่ต้องลงทุนตั้งแต่เริ่มต้น เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการทดลองระบบบัญชีหรืออยู่ในช่วงทดลองตลาด
ข้อดี
- ลดต้นทุนเริ่มต้นเหมาะกับธุรกิจที่ยังไม่มียอดขายแน่นอน
- ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน
- มีฟีเจอร์พื้นฐานเช่น บันทึกรายรับรายจ่าย ออกใบเสร็จ ใบเสนอราคา
ข้อจำกัด
- ความปลอดภัยของข้อมูลมักไม่สูง
- ไม่มีฟีเจอร์เชื่อมต่อกับระบบอื่นเช่น Marketplace หรือธนาคาร
- ไม่รองรับ VATหรือภาษีหักณ ที่จ่ายแบบเป็นทางการ
- ไม่มีบริการหลังการขายหรือการสนับสนุน
จุดเด่นของโปรแกรมบัญชีแบบเสียเงิน
โปรแกรมแบบเสียเงิน เช่น FlowAccount, PEAK, QuickBooks หรือ Xeroมักมีฟีเจอร์ครบวงจรรองรับการออกเอกสารภาษี การจัดการสต็อกสินค้าและการเชื่อมต่อกับช่องทางขายหลากหลาย
ข้อดี
- รองรับการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว
- มีฟีเจอร์เฉพาะทางเช่น การจัดการภาษีอัตโนมัติ งบการเงิน และรายงานวิเคราะห์
- มีการสนับสนุนลูกค้า(Support) และอัปเดตระบบสม่ำเสมอ
- ใช้งานผ่านคลาวด์เข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา
ข้อจำกัด
- มีค่าใช้จ่ายรายเดือนหรือรายปี
- ต้องเรียนรู้การใช้งานในช่วงแรกโดยเฉพาะฟีเจอร์ขั้นสูง
ปรึกษาเรื่องโปรแกรมบัญชี คลิก
SME ร้านค้าออนไลน์ควรเลือกแบบไหน?
หากคุณเป็นผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มต้น และมีงบประมาณจำกัดการใช้โปรแกรมบัญชีฟรีเพื่อเรียนรู้ระบบเบื้องต้นอาจเพียงพอแต่ถ้าคุณต้องการสร้างธุรกิจให้เติบโต พร้อมยื่นภาษีอย่างถูกต้องและต้องการลดเวลาทำบัญชีในอนาคต โปรแกรมบัญชีแบบเสียเงินคือคำตอบ
นอกจากนี้โปรแกรมบัญชีแบบเสียเงินยังช่วยลดความเสี่ยงในการถูกตรวจสอบภาษีย้อนหลังเพราะสามารถออกรายงานที่ตรงตามกฎหมาย และมีระบบสำรองข้อมูลที่ปลอดภัย
ปัญหาที่ SME เจอบ่อย เมื่อเลือกโปรแกรมบัญชีผิดและวิธีป้องกันก่อนจะสาย
การเลือกโปรแกรมบัญชีผิดตั้งแต่เริ่มต้นอาจดูเหมือนเรื่องเล็กแต่จริง ๆ แล้วสามารถสร้างปัญหาใหญ่ให้กับธุรกิจได้ในอนาคต โดยเฉพาะในกลุ่ม SMEร้านค้าออนไลน์ที่ไม่มีผู้ดูแลบัญชีโดยเฉพาะ
1. โปรแกรมไม่รองรับระบบภาษีไทย
หลายธุรกิจเลือกใช้โปรแกรมจากต่างประเทศโดยไม่รู้ว่า ระบบภาษีของไทยเช่น VAT และภาษีหัก ณ ที่จ่าย มีรูปแบบเฉพาะหากโปรแกรมไม่รองรับการออกใบกำกับภาษีหรือภาษีซื้อ/ขายอย่างถูกต้องจะทำให้การยื่นภาษีผิดพลาดหรือถูกตรวจสอบย้อนหลัง ทางแก้เลือกโปรแกรมบัญชีที่มีเมนูภาษีที่ออกแบบมาสำหรับ SMEs ไทยโดยเฉพาะ
2. ไม่มีระบบจัดเก็บสต็อกหรือPOS
ร้านค้าออนไลน์จำนวนมากมีปัญหาสินค้าหายหรือยอดไม่ตรงเพราะโปรแกรมบัญชีที่เลือกมา ไม่มีระบบสต็อก หรือไม่เชื่อมกับ POS (หน้าร้าน)ทำให้ต้องทำสต็อกแยกด้วยมือ ซึ่งเสี่ยงผิดพลาด ทางแก้เลือกโปรแกรมที่เชื่อมสต็อกกับรายการขาย และมีระบบ POS หรือสามารถเชื่อมกับPOS ได้
3. ไม่มีรายงานวิเคราะห์ธุรกิจ
โปรแกรมบัญชีบางตัวให้แค่ยอดรับจ่าย แต่ ไม่มีรายงานเชิงวิเคราะห์เช่น งบกำไรขาดทุน / รายงานลูกหนี้เจ้าหนี้ / รายงานภาษีทำให้เจ้าของธุรกิจขาดข้อมูลตัดสินใจที่สำคัญ ทางแก้ เลือกโปรแกรมที่มีแดชบอร์ดหรือรายงานเชิงวิเคราะห์ที่สามารถนำไปใช้วางแผนธุรกิจได้
4. ระบบไม่เสถียร/ Support ไม่ดี
โปรแกรมบัญชีที่ไม่มีทีมซัพพอร์ต หรือระบบล่มบ่อย ๆทำให้การทำงานหยุดชะงัก และเสียเวลาติดต่อแก้ไข ทางแก้เลือกโปรแกรมที่มีทีมงานในไทย หรือมีช่องทางช่วยเหลือชัดเจน เช่น Live chat/ โทร /Email
5. ย้ายข้อมูลไม่ได้หากต้องเปลี่ยนโปรแกรม
หลายธุรกิจเริ่มต้นใช้โปรแกรมราคาถูกแต่พอเติบโตกลับต้องเปลี่ยนระบบใหม่ และ ย้ายข้อมูลไม่ได้ หรือย้ายยากทำให้ต้องกรอกข้อมูลย้อนหลังใหม่ทั้งหมด ทางแก้ เลือกโปรแกรมที่สามารถ export/importข้อมูลได้หรือมี API เชื่อมต่อกับระบบอื่น
ซื่อสัตย์ จริงใจ ให้คำปรึกษาที่เข้าใจธุรกิจออนไลน์ของคุณอย่างแท้จริง
พูดคุยกับเราเลยสรุป
การเลือก "โปรแกรมบัญชีที่เหมาะสำหรับ SMEs ธุรกิจขายออนไลน์"คือการลงทุนที่ช่วยประหยัดเวลา เพิ่มความแม่นยำ ป้องกันปัญหาภาษีย้อนหลังและช่วยให้คุณโฟกัสกับการขายได้มากขึ้น
หากคุณยังไม่มั่นใจ สำนักงานบัญชี พีทูพี ยินดีให้คำปรึกษาช่วยเลือกโปรแกรมบัญชีให้เหมาะกับประเภทธุรกิจของคุณพร้อมบริการวางระบบบัญชีที่ครบวงจรเพื่อให้ธุรกิจของคุณก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ปรึกษาเรื่องโปรแกรมบัญชี คลิก