การจดทะเบียนบริษัท
ผลของการจดทะเบียนบริษัท
ผลที่ตามมาต่อผู้ประกอบการ มีด้วยกันหลายประการเช่นเรื่องของความน่าเชื่อถือทางธุรกิจ การสร้างโอกาสในการขอสินเชื่อ
เพื่อพัฒนาธุรกิจของผู้ประกอบการ รวมถึงความถูกต้องในเรื่องของกฎหมายและการชำระภาษีได้อย่างถูกต้องตามประมวลรัษฎากร
การจดทะเบียนบริษัท คือ
บริษัทจำกัด Limited Company คือองค์การธุรกิจจัดตั้งขึ้น ด้วยการแบ่งทุนเป็นหุ้น มีมูลค่าเท่า ๆ กันผู้ถือหุ้นต่างรับผิดชอบจำกัด
เพียงไม่เกินจำนวนเงิน ที่ตนยังส่งใช้ ไม่ครบมูลค่าของหุ้นที่ตนถือ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1096 บัญญัติว่า
“ บริษัทจำกัด คือ บริษัทประเภทซึ่งตั้งขึ้นด้วยแบ่งทุนเป็นหุ้นมีมูลค่าเท่าๆ กันโดยผู้ถือหุ้นต่างรับผิดจำกัดเพียงไม่เกินจำนวนเงินที่ตนยังส่งใช้ไม่ครบมูลค่าของหุ้นที่ตนถือ ”
หน้าที่ของบริษัทจำกัด
1.จัดทำใบหุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกราย
2.จัดทำสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น
3.ประชุมผู้ถือหุ้น
4.ส่งสำเนารายชื่อผู้ถือหุ้น
5.ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น
6.ผู้ตรวจสอบบัญชี
7.จัดทำบัญชี
8.ส่งงบการเงิน
9.เก็บเอกสารที่เกี่ยวข้องกับบัญชี
10.แจ้งรายละเอียดเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลบริษัท
ปรึกษาจดทะเบียนบริษัท
โทรศัพท์ : 097 236 2994
Add Line : p2pacc
แนะนำอ่านบทความ..จดทะเบียนการค้าคืออะไร..คลิก
ขอดีของการจดทะเบียนบริษัท
บริษัทจำกัดสามารถจัดหาเงินทุนได้จำนวนมากตามที่ต้องการโดยการออกหุ้นจำหน่ายเพิ่ม หรือจัดหาโดยกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ผู้ถือหุ้นรับผิดชอบ
เฉพาะมูลค่าหุ้นส่วนที่ยังชำระค่าหุ้นไม่ครบเท่านั้นโดยไม่ต้องรับผิดชอบต่อหนี้สินใด ๆ ของบริษัทการดำเนินกิจการบริษัทไม่จำกัดระยะเวลาตามอายุ
ของผู้ถือหุ้นระยะเวลาในการดำเนินกิจการจึงยาวกว่าการดำเนินกิจการประเภทอื่น การบริหารงาน สามารถหาผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์
จัดการแทนได้ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการบริหารงานผู้ถือหุ้นของบริษัทสามารถโอนหรือขายหุ้นให้ผู้ใดก็ได้ โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากบริษัทก่อน
ประเภทของบริษัท แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1. บริษัท เอกชน จำกัด Company Limited
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 23) พ.ศ. 2565 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565
มีผลบังคับใช้วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 สาระสำคัญคืนลดจำนวนผู้เริ่มก่อการจัดตั้งบริษัทจำกัดจาก 3 คน เหลือแค่ 2 คน
2.บริษัท มหาชน จำกัด Public Company
บริษัทมหาชนที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชน จำกัด พ.ศ.2535 ซึ่งมาตรา 15 บัญญัติว่า “บุคคลธรรมดาตั้งแต่สิบห้าคนขึ้นไป
จะเริ่มจัดตั้งบริษัท มหาชน จำกัดได้ โดยจัดทำหนังสือบริคณห์สนธิ และปฏิบัติการอย่างอื่นตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้ที่ดำเนินการขาย
และซื้อหุ้นของบริษัทจำกัด(มหาชน) คือ ตลาดหลักทรัพย์โดยจะในภาษาอังกฤษใช้คำว่า Public LimitedCompany แล้วย่อได้เป็น PLC เพื่อแสดงว่าเป็นบริษัทจำกัด ประเภทมหาชน
อ่านบทความ จดทะเบียนนิติบุคคล คืออะไรเพื่ออะไร
การจดทะเบียน
1.จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ
2.จดจัดตั้งบริษัทจำกัด
เมื่อจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิแล้วก็ให้ดำเนินการดังนี้
1.ผู้เริ่มก่อการจัดให้มีการจองซื้อหุ้นทั้งหมด
2.เมื่อมีการจองซื้อหุ้นหมดแล้ว ก็ให้ผู้เริ่มก่อการออกหนังสือนัดประชุมผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นเพื่อประชุมจัดตั้งบริษัทการออกหนังสือนัดประชุมจะต้องห่างจากวันประชุมอย่างน้อย 7 วัน
3.จัดประชุมผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นเพื่อจัดตั้งบริษัท
**องค์ประชุมจะต้องมีผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นเข้าร่วมประชุมอย่างน้อย 2 คน นับจำนวนหุ้นไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของหุ้นทั้งหมด
**วาระการประชุม
3.1 ให้สัตยาบันแก่บรรดาสัญญาซึ่งผู้เริ่มก่อการได้ทำไว้และค่าใช้จ่ายที่ผู้เริ่มก่อการต้องจ่ายในการเริ่มก่อตั้งบริษัท
3.2 ทำความตกลงตั้งข้อบังคับของบริษัท
3.3 กำหนดจำนวนเงิน ซึ่งจะให้แก่ผู้เริ่มก่อการ
3.4 ในกรณีที่บริษัทจะออกหุ้นบุริมสิทธิให้กำหนดจำนวนหุ้นบุริมสิทธิพร้อมทั้งกำหนดสภาพและบุริมสิทธิของหุ้นบุริมสิทธิว่ามีสภาพหรือสิทธิอย่างไร
3.5กรณีที่บริษัทจะออกหุ้นเพื่อเป็นการตอบแทนการลงทุนด้วยทรัพย์สินหรือแรงงานจะต้องกำหนดจำนวนหุ้นสามัญหรือหุ้นบุริมสิทธิ
ซึ่งออกให้เหมือนหนึ่งว่าได้ใช้เต็มค่าแล้ว หรือ ได้ใช้แต่บางส่วนเพราะได้ใช้ค่าหุ้นด้วยอย่างอื่นนอกจากตัวเงิน ต้องระบุรายละเอียดให้ชัดเจน
ทั้งในหนังสือนัดประชุม และมติที่ประชุมแรงงานที่จะนำมาตีราคาเป็นค่าหุ้นของบริษัทต้องเป็นแรงงานที่ได้กระทำไปแล้ว
3.6 การเรียกชำระค่าหุ้น
3.7 เลือกตั้งกรรมการ และกำหนดอำนาจกรรมการ
3.8เลือกผู้สอบบัญชีรับอนุญาตพร้อมทั้งกำหนดค่าสินจ้างการตั้งผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเพื่อตรวจสอบและรับรองงบการเงินต้องแต่ตั้งบุคคลธรรมดาเท่านั้น จะแต่งตั้งสำนักงานตรวจสอบบัญชีไม่ได้
4.ผู้เริ่มก่อการมอบหมายกิจการงานทั้งหมดให้แก่คณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งจากที่ประชุม
5.คณะกรรมการเรียกเก็บค่าหุ้นจากผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นอย่างน้อยร้อยละ 25 ของมูลค่าหุ้น
6.เก็บค่าหุ้นได้ครบให้กรรมการผู้มีอำนาจจัดทำคำขอจดทะเบียนตั้งบริษัท แล้วยื่นจดทะเบียนต่อนายทะเบียนโดยการยื่นจดทะเบียนจะต้องให้กรรมการผู้มีอำนาจ
เป็นผู้ลงลายมือชื่อในคำขอจดทะเบียนและต้องยื่นจดทะเบียนภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่ที่ประชุมจัดตั้งบริษัทถ้าไม่จดทะเบียนภายในกำหนดเวลาดังกล่าว
จะทำให้การประชุมตั้งบริษัทเสียไปหากต่อไปต้องการจดทะเบียนตั้งบริษัทก็ต้องดำเนินการจัดประชุมผู้จองซื้อหุ้นใหม่
ปรึกษาจดทะเบียนบริษัท
โทรศัพท์ : 097 236 2994
Add Line : p2pacc
อ่านรายละเอียด บริการรับจดทะเบียนบริษท