ค่าใช้จ่ายต้องห้าม
การวางแผนภาษี และบันทึกบัญชีที่ดี คือรากฐานของความมั่นคงทางธุรกิจ แต่รู้หรือไม่ว่า "ค่าใช้จ่ายต้องห้าม"คือจุดเสี่ยงที่เจ้าของกิจการหลายคนมองข้าม
หากคุณไม่แน่ใจว่าค่าใช้จ่ายที่ใช้ไปสามารถนำมาหักภาษีได้หรือไม่บทความนี้คือคำตอบที่คุณควรอ่าน! สำนักงานบัญชี พีทูพี พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องค่าใช้จ่ายต้องห้าม การบันทึกบัญชีและการวางแผนภาษีครบวงจร
ค่าใช้จ่ายต้องห้าม คืออะไร
"ค่าใช้จ่ายต้องห้าม" หมายถึง รายจ่ายที่ไม่สามารถนำมาหักลดหย่อนในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ตามที่กฎหมายกำหนด แม้จะมีการใช้จ่ายจริง หรือมีเอกสารประกอบที่ดูเหมือนถูกต้องก็ตาม
ตัวอย่างประเภทค่าใช้จ่ายต้องห้าม
1. รายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมส่วนตัวของกรรมการ หรือพนักงาน เช่น ค่าเดินทางส่วนตัว ค่ารักษาพยาบาลส่วนบุคคล
2. ค่าใช้จ่ายที่ไม่มีเอกสารประกอบ เช่น ใบเสร็จไม่เป็นทางการ หรือไม่มีใบกำกับภาษีเต็มรูป
3. รายจ่ายที่ขาดความเกี่ยวข้องกับกิจการ เช่น ค่าของขวัญให้เพื่อนหรือบุคคลนอกองค์กร
4. การบันทึกบัญชีค่าใช้จ่ายเหล่านี้ผิดพลาด อาจถูกสรรพากรตรวจพบและสั่ง "บวกกลับ" เข้ากำไรสุทธิส่งผลให้ต้องเสียภาษีเพิ่มเติม
ปรึกษางานบัญชีภาษี คลิกเลย
โทรศัพท์ : 097 236 2994
Add Line : p2pacc
แนะนำอ่าน บริการรับทำบัญชีดูแลภาษีพัฒนาระบบบัญชี
ค่าใช้จ่ายบวกกลับ มีอะไรบ้าง
ค่าใช้จ่ายบวกกลับ คือ ค่าใช้จ่ายที่บริษัทเคยหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีไว้ แต่สรรพากรเห็นว่าไม่สามารถหักได้จึงต้องนำยอดนั้นกลับมารวมในการคำนวณกำไรสุทธิอีกครั้ง
ตัวอย่างค่าใช้จ่ายบวกกลับที่พบบ่อย
1. ค่าเบี้ยปรับหรือค่าปรับจากหน่วยงานราชการ เช่น กรมสรรพากร กรมศุลกากร
2. รายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับการรับรอง เช่น ค่าเลี้ยงรับรอง ที่ไม่มีหลักฐานเพียงพอ
3. รายจ่ายที่ไม่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามข้อกำหนด
ค่าใช้จ่ายบวกกลับเหล่านี้หากไม่จัดการอย่างรอบคอบ อาจกระทบต่อกำไรสุทธิ และก่อให้เกิดการเสียภาษีซ้ำซ้อน
รายจ่ายต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรีแห่งประมวลรัษฎากร
กฎหมายไทยได้กำหนดไว้ชัดเจนใน มาตรา 65 ตรีแห่งประมวลรัษฎากร ถึงรายการที่ไม่ให้หักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ เช่น
1. เงินปันผล หรือผลประโยชน์ที่จ่ายให้กับผู้ถือหุ้น ไม่ถือเป็นรายจ่ายของกิจการ เนื่องจากเป็นการแบ่งผลกำไรให้ผู้ถือหุ้น ไม่ใช่ต้นทุนที่เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ
2. รายจ่ายที่ขาดความจำเป็น และไม่เหมาะสมแก่กิจการ เช่น ค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย หรือรายจ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสร้างรายได้ของกิจการ
3. รายจ่ายที่ไม่สามารถพิสูจน์ความจำเป็น หรือเหตุผลทางธุรกิจได้ เช่น ค่าเลี้ยงรับรอง ที่ไม่มีเอกสารหรือหลักฐานสนับสนุนว่า จำเป็นต่อธุรกิจ
4. ค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินที่ไม่ได้ใช้ในกิจการ หากทรัพย์สินไม่ได้ถูกนำมาใช้งานในกิจการ จะไม่สามารถหักค่าเสื่อมราคาเป็นรายจ่ายได้
ผู้ประกอบการควรศึกษาเงื่อนไขของมาตราดังกล่าวอย่างละเอียด และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาด
ปรึกษางานบัญชีภาษี คลิกเลย
โทรศัพท์ : 097 236 2994
Add Line : p2pacc
อ่านบริการ รับวางระบบบัญชีบริษัท โรงงาน ร้านค้าออนไลน์
ค่าใช้จ่ายต้องห้าม กับผลกระทบทางภาษีที่มักมองข้าม
แม้ค่าใช้จ่ายต้องห้ามอาจดูเหมือนไม่มีผลกระทบในทันที แต่ในทางบัญชี และภาษี การบันทึกรายจ่ายผิดประเภทจะนำไปสู่ผลกระทบที่รุนแรงได้ดังนี้
1. รายได้สุทธิเกินความเป็นจริง การหักรายจ่ายต้องห้ามอาจทำให้กำไรสุทธิที่คำนวณได้น้อยกว่าความเป็นจริง
2. ภาษีค้างชำระ เมื่อสรรพากรตรวจสอบ และพบว่าใช้ค่าใช้จ่ายต้องห้าม อาจมีการเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง
3. เบี้ยปรับและเงินเพิ่ม ตามกฎหมายภาษีที่ต้องชำระย้อนหลังจะมี เบี้ยปรับและเงินเพิ่ม ตามอัตราที่กำหนด
4. เสียความน่าเชื่อถือ การบันทึกบัญชีไม่ถูกต้องอาจกระทบต่อเครดิตและภาพลักษณ์ของกิจการ
5. ภาระต้นทุนแฝง ธุรกิจต้องเสียเวลาจัดทำเอกสารเพิ่มเติมแก้ไขบัญชี และรับผลกระทบต่อการบริหารเงินสด
ผลกระทบเหล่านี้สามารถป้องกันได้หากผู้ประกอบการตระหนักและจัดการรายจ่ายอย่างถูกต้องตั้งแต่ต้น
วิธีตรวจสอบรายการใช้จ่ายก่อนบันทึกบัญชี
เพื่อป้องกันการใช้จ่ายที่เข้าข่ายต้องห้ามควรมีการตรวจสอบอย่างเป็นระบบก่อนบันทึกบัญชี โดยสามารถดำเนินการได้ดังนี้
1. ตรวจสอบวัตถุประสงค์การใช้จ่าย ต้องแน่ใจว่าเกี่ยวข้องโดยตรงกับการดำเนินธุรกิจไม่ใช่ค่าใช้จ่ายส่วนตัวหรือเพื่อความบันเทิงโดยไม่เกี่ยวกับงาน
2. ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร เช่น มีใบกำกับภาษีเต็มรูป ใบเสร็จ ใบสั่งซื้อ หรือหลักฐานการจ่ายเงิน
3. ตรวจสอบภาระภาษี ณ ที่จ่าย หากรายการนั้นเข้าข่ายต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ต้องดำเนินการหักและนำส่งอย่างถูกต้อง
4. ใช้แบบฟอร์มหรือรายการตรวจสอบก่อนปิดบัญชี เพื่อทบทวนความถูกต้องของรายการใช้จ่ายทั้งหมดลดความเสี่ยงจากการบันทึกผิด
ปรึกษางานบัญชีภาษี คลิกเลย
โทรศัพท์ : 097 236 2994
Add Line : p2pacc
สำนักงานบัญชี พีทูพี ยินดีให้บริการผู้ประกอบการธุรกิจทุกท่าน
เอกสารประกอบค่าใช้จ่ายที่ถูกต้องตามกฎหมาย
การจะบันทึกค่าใช้จ่ายได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยต้องมีเอกสารประกอบที่ครบถ้วน ได้แก่
1. ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ ต้องมีรายละเอียดครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนดเช่น ชื่อผู้ขาย เลขประจำตัวผู้เสียภาษี รายการสินค้า ราคาก่อนภาษีและภาษีมูลค่าเพิ่มแยกต่างหาก
2. ใบเสร็จรับเงิน หรือใบแจ้งหนี้ ใช้แสดงว่ามีการชำระเงินจริง และเป็นหลักฐานประกอบการบันทึกรายจ่าย
3. สัญญาว่าจ้างหรือใบสั่งซื้อ ใช้ยืนยันเจตนาในการซื้อสินค้า/บริการ รวมถึงเงื่อนไขการซื้อขาย
4. หลักฐานการชำระเงิน เช่น สลิปโอนเงิน ใบเช็คหรือสเตทเมนต์จากธนาคาร แสดงว่ามีการจ่ายเงินจริงจากกิจการ
หากขาดเอกสารเหล่านี้ แม้มีการใช้จ่ายจริงก็อาจถูกตัดสิทธิ์ในการนำมาหักเป็นรายจ่ายได้
ค่าใช้จ่ายบวกกลับบันทึกบัญชีอย่างไรให้ถูกต้อง
เพื่อให้การจัดทำบัญชี และยื่นแบบภาษี เป็นไปตามกฎหมายต้องมีวิธีการบันทึกค่าใช้จ่ายบวกกลับไว้อย่างเป็นระบบ แนวทางปฏิบัติที่แนะนำ
1. แยกบัญชีค่าใช้จ่ายทั่วไป และค่าใช้จ่ายต้องห้ามออกจากกันอย่างชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมและตรวจสอบรวมถึงลดความเสี่ยงในการบันทึกรายการผิดพลาด
2. ทำบันทึกหรือ memo แนบกับแต่ละรายการที่อาจเข้าข่ายบวกกลับ เพื่อให้สามารถอธิบายต่อผู้สอบบัญชี หรือเจ้าหน้าที่สรรพากรได้หากมีการตรวจสอบ
3. ปรึกษาสำนักงานบัญชี หรือผู้สอบบัญชีรับอนุญาตทุกครั้ง ก่อนยื่นแบบแสดงรายการภาษี เพื่อให้มั่นใจว่าการจัดทำบัญชี และรายการรายจ่าย เป็นไปตามกฎหมาย และแนวปฏิบัติที่ถูกต้อง
สำนักงานบัญชี พีทูพี มีบริการช่วยตรวจสอบรายการบัญชี และรายจ่ายต้องห้ามให้กับธุรกิจทุกประเภท เพื่อความถูกต้อง และโปร่งใส
ปรึกษางานบัญชีภาษี คลิกเลย
โทรศัพท์ : 097 236 2994
Add Line : p2pacc
รายละเอียด ราคา, ราคาUpgrade โปรแกรม Express
ค่าใช้จ่ายบวกกลับ ตัวอย่างจากสถานการณ์จริง
กรณีศึกษา บริษัท A จ่ายค่าปรับให้กับ กรมสรรพากร 10,000 บาท จากการยื่นแบบล่าช้า แล้วนำยอดนี้ไปบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล
ผลลัพธ์สรรพากรตรวจสอบพบว่า รายจ่ายดังกล่าวไม่สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ และมีคำสั่งให้ "บวกกลับ" 10,000 บาท เข้ากำไรสุทธิ พร้อมเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง
บทลงโทษ กรณีบันทึกค่าใช้จ่ายต้องห้ามโดยเจตนา
กรณีผู้ประกอบการ หรือฝ่ายบัญชีมีการบันทึกรายจ่ายต้องห้าม โดยรู้ว่าไม่ถูกต้อง อาจเข้าข่ายเป็นการเลี่ยงภาษี ซึ่งจะมีโทษทั้งทางแพ่ง และอาญา เช่น
1. ถูกปรับเป็นจำนวน 2 เท่า ของภาษีที่ชำระขาด เช่น หากชำระภาษีขาดไป 50,000 บาท จะถูกปรับเพิ่มอีก 100,000 บาท
2. ต้องเสียเงินเพิ่มในอัตรา 1.5 % ต่อเดือน ของภาษีที่ยังไม่ได้ชำระ คิดจากยอดภาษีที่ขาดจนกว่าจะชำระครบถ้วน
3. หากมีเจตนาเลี่ยงภาษีอย่างชัดเจน อาจถูกดำเนินคดีอาญา ซึ่งมีโทษหนักทั้งจำคุก หรือปรับตามที่กฎหมายกำหนด
แนวทางการจัดระบบเอกสาร และบัญชีเพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายต้องห้าม
ผู้ประกอบการควรวางระบบบัญชีที่สามารถป้องกันความผิดพลาดได้ตั้งแต่ต้นทาง เช่น
1. ใช้โปรแกรมบัญชีที่แยกประเภทค่าใช้จ่ายต้องห้าม ช่วยป้องกันไม่ให้รายการผิดพลาด ถูกนำมาคำนวณภาษีโดยไม่รู้ตัว
2. วางนโยบายอนุมัติรายจ่ายภายในองค์กร เช่น ต้องมีการอนุมัติจากผู้มีอำนาจ พร้อมหลักฐานประกอบก่อนจ่ายทุกครั้ง
3. จัดอบรมพนักงานบัญชี เพื่อให้เข้าใจหลักเกณฑ์ค่าใช้จ่ายต้องห้าม และลดโอกาสการบันทึกผิดพลาด
4. ตรวจสอบค่าใช้จ่ายทุกเดือน โดยที่ปรึกษาภายนอก หรือสำนักงานบัญชีเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามหลักภาษีและมาตรฐานบัญชี
ปรึกษางานบัญชีภาษี คลิกเลย
โทรศัพท์ : 097 236 2994
Add Line : p2pacc
แนวคิดจัดการภาษีแบบมืออาชีพสำหรับคนรุ่นใหม่
การเข้าใจค่าใช้จ่ายต้องห้าม ไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิคทางบัญชี แต่ยังเป็นส่วนสำคัญของการวางแผนภาษีอย่างยั่งยืน ผู้ประกอบการที่รอบคอบควรดำเนินการ
1. เริ่มต้นจากการจัดระเบียบเอกสารให้ดี เช่นการเก็บใบกำกับภาษี ใบเสร็จ และหลักฐานการจ่ายเงินอย่างเป็นระบบเพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ง่าย
2. ปรับนโยบายภายในเกี่ยวกับการเบิกจ่ายให้ชัดเจน เช่น ต้องมีผู้อนุมัติ ค่าใช้จ่ายต้องมีหลักฐานประกอบ และมีเหตุผลทางธุรกิจรองรับ
3. หากไม่มีความชำนาญเฉพาะด้าน ควรใช้บริการสำนักงานบัญชีมืออาชีพ เพื่อช่วยตรวจสอบ ปรับปรุงและให้คำแนะนำตามแนวปฏิบัติที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ปรึกษางานบัญชีภาษี คลิกเลย
โทรศัพท์ : 097 236 2994
Add Line : p2pacc
ภาษีธุรกิจ SME ฉบับเจ้าของธุรกิจต้องอ่าน
สรุปค่าใช้จ่ายต้องห้าม
ค่าใช้จ่ายต้องห้าม และค่าใช้จ่ายบวกกลับ เป็นประเด็นสำคัญที่เจ้าของกิจการควรให้ความใส่ใจอย่างยิ่ง เพราะมีผลต่อการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล และอาจนำไปสู่ปัญหาทางภาษีหากบันทึกผิดพลาด
สำนักงานบัญชี พีทูพี พร้อมเป็นที่ปรึกษาด้านบัญชี ภาษี และการวางแผนธุรกิจ ที่คุณไว้วางใจได้ สนใจสอบถามบริการเพิ่มเติม