ภพ 30 สรุปภาษีซื้อภาษีขาย ยื่นสรรพากร
.jpg)
ภ.พ.30 เอกสารที่ธุรกิจจะต้องยื่นส่งกับกรมสรรพากรทุกเดือน ทุกธุรกิจจะต้องทำ ภ.พ.30 หรือไม่ และทำในกรณีไหน เพื่อให้เห็นภาพ
ลองนึกถึงเวลาที่คุณจ่ายค่าสินค้า ค่าบริการจากบริษัทคู่ค้าหรือไปทานอาหาร ในบิลที่ทางร้านออกให้จะมีการรวมภาษีมูลค่าเพิ่มเข้าไป
แสดงว่าร้านอาหารนั้นยื่นจดภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับธุรกิจ ซึ่งเอกสาร ภ.พ.30 คือเอกสารสำคัญที่บริษัทจะต้องยื่นหลังการจดภาษีแล้วนั่นเอง
ภ.พ.30 คืออะไร
คือแบบแสดงรายการสรุปภาษีซื้อ-ภาษีขายเพื่อนำส่งกรมสรรพากร โดยผู้มีหน้าที่จัดทำคือ เจ้าของธุรกิจที่มีรายได้มากกว่า1.8 ล้านบาทต่อปี
และได้ทำการขึ้นทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ต้องนำส่งให้กรมสรรพากรทุกเดือนภายในวันที่15 ของเดือนถัดไป หรือสามารถยื่นผ่านทางอินเทอร์เน็ตก็ได้
สนใจปรึกษา ติดต่อ
โทรศัพท์ : 097 236 2994
Add Line : p2pacc
สนใจปรึกษา ติดต่อ
โทรศัพท์ : 097 236 2994
Add Line : p2pacc
.jpg)
ใครต้องใช้เอกสาร ภ.พ.30
ธุรกิจไหนที่มีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มจะต้องมีการยื่นเอกสารภ.พ.30 เสมอซึ่งเป็นเอกสารทางธุรกิจที่บริษัทจะต้องยื่นแก่ทางกรมสรรพากร
ที่ไหนจด VAT แล้วก็ต้องยื่นนั่นเองซึ่งก็เป็นสิ่งสำคัญต้องยื่นหลังการจด VAT เรียกแบบง่าย ๆ ก็เป็นแบบแสดงภาษีซื้อและภาษีขาย
ที่ทางบริษัทจะต้องแจ้งตลอดซึ่งผู้ที่จะต้องจัดทำเอกสารนี้จะเป็น “เจ้าของธุรกิจ”
ซึ่งมีเงื่อนไขอยู่ว่าธุรกิจนั้นจะต้องมีรายได้มากกว่า1.8 ล้านบาท/ปี และจะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จะต้องส่งเอกสาร ภ.พ.30 ในทุกวันที่15ของเดือนถัดไปจะไปยื่นด้วยตัวเองที่กรมสรรพากรหรือยื่นผ่านออนไลน์ก็ได้ตามแต่สะดวกเลย
ฉะนั้นหากบริษัทเพิ่งเปิดได้ไม่นานและรายได้ยังไม่ถึงตามเกณฑ์ก็ยังไม่ต้องยื่นเอกสารตัวนี้
สำหรับท่านใดที่มีกิจการหลายที่แล้วอยากจะยื่นแบบ ภ.พ.30 รวมกันและเสียภาษีมูลเพิ่มรวมกันก็ทำได้แต่ว่าจะต้องขออนุมัติ
กับทางกรมสรรพากรก่อน พอได้รับการอนุมัติแล้วก็สามารถยื่นแบบและเสียภาษีรวมกันได้เลยซึ่งก็จะได้ยื่นแบบ ภ.พ.30
เพียงแค่ 1ฉบับเท่านั้นยื่นไปพร้อมกับใบแนบที่ทางกรมสรรพากรกำหนดให้
ภ.พ.30 ประกอบด้วยข้อมูลอะไรบ้าง
ส่วนที่ 1 – จะเป็นการกรอกข้อมูลรายละเอียดของบริษัทข้อมูลเดือน และ ปีที่ยื่นแบบภาษี
ส่วนที่ 2 – จะเป็นการกรอกข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขการคำนวณภาษี เกี่ยวกับยอดขาย ภาษีขาย ยอดซื้อ ภาษีซื้อ ภาษีที่ต้องชำระภาษีที่ชำระเกิน เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม
ส่วนที่ 3 – จะเป็นการกรอกข้อมูลเกี่ยวกับการขอคืนภาษี กรณีที่ผู้ประกอบการต้องการขอคืนภาษีและมีส่วนที่ให้ผู้มีอำนาจของบริษัทเซ็นรับรองแบบ
อ่านบริการ รับเป็นที่ปรึกษาภาษี
ใบแนบอะไรบ้างใช้ในการยื่น ภ.พ.30
ภาษีซื้อ ภาษีขาย ที่แสดงใน ภ.พ.30 คืออะไร
1. ภาษีซื้อ (Input Tax)
เป็นภาษีที่เจ้าของธุรกิจจะต้องจ่ายเมื่อมีการซื้อวัตถุดิบหรืออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อมาทำเป็นสินค้าหรือบริการ หรือค่าใช้จ่ายต่าง ๆที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ
พอจ่ายไปแล้วจะต้องมีการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 %ซึ่งก็ต้องจ่ายให้กับบริษัทที่ขายสินค้าให้เรา ที่เป็นบริการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
ทุกการซื้อของ การใช้จ่ายต่าง ๆส่วนมากเราก็จะต้องได้เสียภาษีไปด้วยอยู่แล้วบางอย่างก็บวกเข้าไปในราคาสินค้าเรียบร้อย
เพราะทางคนขายก็อาจต้องทำบัญชียื่นภาษีและยื่น ภ.พ. 30 เหมือนกัน หากเราไม่เรียกเก็บจากลูกค้าแล้วใครจะจ่าย 7%ตรงนั้น ปกติก็เป็นภาษีโดยอ้อมที่ลูกค้าต้องจ่ายเป็นปกติ
2. ภาษีขาย (Output Tax)
สำหรับส่วนนี้จะเป็นการเรียกเก็บภาษี 7%จากลูกค้าที่ซื้อสินค้าและบริการของเรา ซึ่งเราก็จะต้องนำ 7 %ที่ได้มานี้ส่งรัฐนั่นเอง
ซึ่งก็รวมไปถึงการนำสินค้าไปใช้ไม่ว่าประการใดก้ตามยกเว้นการเอาไปใช้เพื่อประกอบกิจการของตนเองหรือมีสินค้าขาดจากรายงานสินค้าและวัตถุดิบ
ภาษีตรงนี้เองที่เราต้องยื่นโดยใช้ ภ.พ. 30 เพื่อเป็นการแสดงแบบภาษีซื้อและขายแก่ทางกรมสรรพกรซึ่งจะต้องทำกฎหมายบังคับไว้แล้ว
แต่ว่าบริษัทของคุณก็ต้องเข้าเงื่อนไขว่ามีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท/ปีด้วยนะ มองแบบเข้าใจง่าย ๆ คือ 7%นี้หากสังเกตเวลาเราซื้อของ
ตามห้างร้านต่าง ๆจะมีการรวมและเรียกเก็บไปพร้อมกับค่าสินค้าและบริการด้วยเสมอหากเราเป็นเจ้าของธุรกิจเราเองก็ต้องมีการเสียและเรียกเก็บ VAT 7% ตรงนี้ด้วยเหมือนกัน
แนะนำอ่าน บริการรับวางระบบบัญชี
ยื่นเอกสาร ภ.พ.30 เมื่อใด
กิจการของคุณมีรายได้มากกว่า 1.8 ล้านบาท/ปีรวมถึงมีการใช้จ่ายในการจัดตั้งธุรกิจใหม่ ก็จะต้องยื่นขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
ที่กรมสรรพากรในพื้นที่ จากนั้นก็ยื่นแบบ ภ.พ.30 ด้วย และเป็นเอกสารสำคัญที่เจ้าของกิจการต้องยื่นทุกเดือนโดยต้องยื่นก่อนวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
เวลาจะไปยื่นเอกสาร ภ.พ.30ที่สรรพากร หรือ ยื่นผ่านระบบออนไลน์ จะต้องมีใบกำกับภาษีใช้ในการอ้างอิงด้วย
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเอกสารที่จะต้องมีและทำให้ถูกต้องชัดเจน ฉะนั้นแล้วทุกขั้นตอนจะต้องใส่ใจในการทำโดยละเอียด
ยื่นแบบ ภ.พ.30 อย่างไรที่ไหน
ให้ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มยื่นแบบ ภ.พ.30 พร้อมกับชำระภาษี (ถ้ามี) เป็นรายเดือนภาษีทุกเดือน
ไม่ว่าจะได้ขายสินค้าหรือให้บริการ ในเดือนภาษีนั้นหรือไม่ก็ตามภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป ณ สภานที่ดังต่อไปนี้
1.ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่น ณ
1.1สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาในท้องที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู่
1.2 สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่กรุงเทพมหานคร 1-5สำหรับผู้ประกอบการที่ขายสินค้าหรือให้บริการที่ต้องเสียทั้งภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่ม
2.นอกเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่น ณ
2.1 สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาในท้องที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู่
2.2 สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สาขา หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ ท้องที่ที่โรงงานอุตสาหกรรม หรือ สถานบริการตั้งอยู่สำหรับผู้ประกอบการที่ขายสินค้า หรือให้บริการที่ต้องเสียทั้งภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่ม
อ่านบริการรับตรวจสอบบัญชี
การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มจำเป็นไหม
ผู้ที่ต้องยื่นเอกสาร ภ.พ.30 จะต้องเป็นกิจการที่มีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท/ปี
หากไม่แน่ใจว่ากิจการจะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไหมให้ลองตรวจสอบเงื่อนไขต่อไปนี้
1.กิจการมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปีไหม
รายได้เฉลี่ยออกมาแต่ละเดือนอยู่ที่ 150,000 บาทรายได้นี้มาจากยอดขายที่เกิดขึ้นจริง ที่ไม่ใช่กำไรหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วพอรายได้เกินแล้วจะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มภายใน 30 วัน และยื่นเอกสาร ภ.พ.30
2.ธุรกิจมี Vat เป็นต้นทุนหรือไม่
หากธุรกิจของคุณเป็นแบบซื้อมาขายไป หรือเป็นธุรกิจที่มีสินค้าต้นทาง มีการคิด Vatก็จำเป็นต้องมี Vat ด้วยเป็นการรักษาสิทธิประโยชน์ทางภาษี จะทำให้ลดต้นทุนของธุรกิจเราไปได้
3.ธุรกิจได้รับการยกเว้นภาษีหรือไม่
จะได้รับการยกเว้นภาษีจะต้องเป็นกิจการที่มีรายได้ไม่เกิน1.8 ล้านบาท/ปี คิดจากยอดขายสินค้า หรือบริการที่เรียกเก็บจากลูกค้า
เป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับการเกษตรภายในประเทศ (คำสั่งกรมสรรพากร ป.28/2535ฯ)ค้าขายสัตว์ทั้งมีและไม่มีชีวิตในประเทศ(คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.29/2535ฯ)
โรคพืชและสัตว์การให้บริการห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ สวนสัตว์ และการให้บริการรักาพยาบาลทั้งแบบรัฐบาลและเอกชน แต่เพื่อให้แน่ใจควรตรวจสอบกับสรรพากรอีกครั้ง
4.ผู้ใช้บริการธุรกิจเราเข้าระบบ Vat หรือไม่
ต้องตรวจสอบว่าลูกค้าที่มาใช้บริการและซื้อสินค้าอยู่ในระบบVat หรือไม่ หากใช่ ก็ควรจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแม้รายได้จะไม่ถึง 1.8 ล้านบาทต่อปีก็จดได้
เพราะทางฝั่งลูกค้าที่เป็นบริษัท มีการยื่นภาษีมีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และอาจจะต้องมีการยื่นเอกสาร ภ.พ.30 ด้วย
เวลาซื้อของก็ต้องซื้อกับร้านที่ออกใบกำกับภาษีให้ได้ ถ้าไม่มีก็นำไปทำบัญชีและภาษีต่อไม่ได้ฉะนั้นถ้าไม่อยากเสียลูกค้าควรจดไว้ไม่เสียหาย
เอกสาร ภ.พ.30 คนที่จะต้องยื่นคือเจ้าของกิจการ หรือเจ้าของบริษัทซึ่งกิจการจะต้องมีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และมีรายได้ต่อปีของกิจการเกิน 1.8ล้านบาท
หากไม่เกินก็ยื่นภาษีอย่างเดียวไม่ต้องมีใบ ภ.พ.30 และหากต้องยื่นเอกสารนี้ต่อสรรพากรจะต้องยื่นภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
และ ยื่นทุกเดือนเพื่อเป็นการแสดงแบบภาษีซื้อ และ ภาษีขายของกิจการที่ถูกต้อง
สนใจปรึกษา ติดต่อ
โทรศัพท์ : 097 236 2994
Add Line : p2pacc
แนะนำอ่าน บริการรับทำบัญชี ราคาประหยัด
