views

บัญชีภาษีอากรสำหรับ SME



ผู้ประกอบการ SME จำนวนไม่น้อยเริ่มต้นธุรกิจด้วยความตั้งใจแต่กลับสะดุดเมื่อเจอกับเรื่องบัญชีและภาษีที่ยุ่งยากบางรายเผลอละเลยไปเพียงเล็กน้อย กลับต้องจ่ายภาษีย้อนหลัง เบี้ยปรับและเงินเพิ่มจำนวนมากโดยไม่ตั้งใจ


บทความนี้จะพาเจ้าของธุรกิจเข้าใจ บัญชีภาษีอากรสำหรับ SME อย่างชัดเจนพร้อมแนะนำแนวปฏิบัติ และสิ่งที่ควรระวัง รวมถึงแนวทางเลือกใช้“สำนักงานบัญชีที่ใช่” ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเดินหน้าได้อย่างมั่นคง




บัญชีภาษีอากรคืออะไร? SME จำเป็นต้องรู้หรือไม่?

 

บัญชีภาษีอากร คือ การจัดทำบัญชีที่สอดคล้องกับกฎหมายภาษีโดยมีวัตถุประสงค์หลักในการคำนวณภาษีที่ต้องชำระต่อรัฐให้ถูกต้อง เช่นภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และภาษีหัก ณที่จ่าย

 

นอกจากจะเป็นข้อกำหนดทางกฎหมายแล้วบัญชีภาษีอากรยังช่วยให้ธุรกิจสามารถ

 

1. ตรวจสอบผลประกอบการได้อย่างชัดเจน

เมื่อมีระบบบัญชีภาษีอากรที่ถูกต้อง ธุรกิจสามารถดูรายได้ ต้นทุนและกำไรสุทธิได้อย่างแม่นยำทุกเดือน

 

2. วางแผนภาษีล่วงหน้า

เจ้าของกิจการสามารถประเมินภาษีที่ต้องจ่ายและหาวิธีใช้สิทธิลดหย่อนหรือวางแผนการใช้จ่ายให้เสียภาษีน้อยลงอย่างถูกต้อง

 

3. เพิ่มความน่าเชื่อถือต่อคู่ค้า สถาบันการเงิน และหน่วยงานรัฐ

บัญชีภาษีที่โปร่งใสและตรวจสอบได้สร้างความมั่นใจให้กับผู้ร่วมธุรกิจและช่วยให้ขอสินเชื่อหรือเข้าร่วมโครงการรัฐได้ง่ายขึ้น

 

4. ป้องกันการถูกประเมินภาษีย้อนหลัง

เมื่อยื่นภาษีครบถ้วนตรงเวลา พร้อมเอกสารประกอบชัดเจนจะช่วยลดโอกาสที่กรมสรรพากรจะเรียกตรวจสอบย้อนหลังหรือประเมินภาษีเพิ่ม

 

ภาษีสำคัญที่ SME ต้องรู้จักและจัดการ

 

1. ภาษีเงินได้นิติบุคคล

ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด. 51 (กลางปี) และ ภ.ง.ด. 50 (สิ้นปี) โดยคำนวณจากกำไรสุทธิ หากบันทึกบัญชีผิดอาจเสียภาษีมากเกินไปหรือใช้สิทธิประโยชน์ไม่ครบ

 

2. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย

เมื่อมีการจ่ายค่าบริการ ค่าจ้าง หรือค่าเช่า จะต้องหักภาษี ณที่จ่าย และนำส่งภาษีผ่านแบบ ภ.ง.ด. 1, 3 หรือ 53 ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป

 

3. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

หากมีรายได้ถึง 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องจดทะเบียน VAT และยื่นแบบภ.พ.30 ทุกเดือน พร้อมจัดทำรายงานภาษีซื้อ–ขายอย่างถูกต้อง


ปรึกษางานบัญชีภาษี คลิก




บัญชีภาษีอากรของ SME ธุรกิจบริการ VS ธุรกิจขายสินค้าต่างกันอย่างไร?

 

ธุรกิจบริการ

 

  • มีค่าใช้จ่ายหลักเป็นค่าจ้าง ค่าที่ปรึกษา ค่าเดินทาง และค่าสาธารณูปโภค
  • ต้องระวังภาษีหัก ณที่จ่าย เป็นพิเศษ โดยเฉพาะกรณีจ้างฟรีแลนซ์หรือบริษัทอื่น
  • เอกสารประกอบเช่นใบสำคัญจ่าย และใบกำกับภาษีต้องครบถ้วน
  • หากเอกสารไม่ถูกต้องจะไม่สามารถหักภาษีได้ และเสี่ยงถูกประเมินย้อนหลัง

 

ธุรกิจขายสินค้า

 

  • มีต้นทุนสินค้าและสต๊อกเป็นหัวใจหลัก
  • ต้องบริหาร VAT อย่างถูกต้องและออกใบกำกับภาษีทุกครั้ง
  • ระบบสต๊อกต้องตรงกับบัญชีสินค้าและรายงานภาษี
  • หากคุมต้นทุนไม่ดีอาจทำให้กำไรผิด และเสียภาษีมากเกินไป

 

ปัญหาบัญชีภาษีที่ SME มักพบบ่อย


1. ยื่นภาษีผิดแบบ หรือลืมยื่นตามกำหนด หากยื่นผิดประเภทหรือเลยกำหนดจะถูกเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม และอาจถูกตรวจย้อนหลังโดยกรมสรรพากร


2. หักภาษี ณ ที่จ่ายไม่ครบ หรือไม่หักเลย ธุรกิจมีหน้าที่หักภาษีก่อนจ่ายค่าจ้างหากไม่ดำเนินการจะต้องรับผิดชอบภาษีนั้นเองเต็มจำนวน


3. ไม่มีใบกำกับภาษี หรือใช้ใบที่ไม่สมบูรณ์ ใบกำกับภาษีที่ไม่ครบองค์ประกอบตามกฎหมายจะใช้ภาษีซื้อมาหักภาษีขายไม่ได้ และอาจถูกตีตกในการตรวจสอบ


4. รายงานภาษีซื้อ–ขายไม่ตรงกับบัญชีจริง หากรายงานภาษีไม่ตรงกับยอดในบัญชีอาจถูกมองว่ามีการบิดเบือนข้อมูล และนำไปสู่การสอบสวนหรือประเมินเพิ่ม


5. ไม่จัดเก็บเอกสารประกอบครบถ้วน เอกสารเช่นใบเสร็จ ใบสำคัญจ่าย หรือใบกำกับภาษี ต้องเก็บไว้อย่างเป็นระบบอย่างน้อย 5 ปีเพื่อยืนยันความถูกต้องของบัญชี


6. ไม่วางแผนภาษี ทำให้เสียมากกว่าที่ควร หากไม่มีการวิเคราะห์ภาษีล่วงหน้าจะพลาดสิทธิลดหย่อน หักค่าใช้จ่ายไม่เต็มที่ และเสียภาษีมากเกินความจำเป็น


ปรึกษางานบัญชีภาษี คลิก




แนวทางการจัดการบัญชีภาษีอากรที่ดี

 

1. แยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีธุรกิจให้ชัดเจน การใช้บัญชีธนาคารเดียวกันสำหรับใช้ส่วนตัวและธุรกิจจะทำให้รายรับ-รายจ่ายสับสนควรเปิดบัญชีแยกโดยเฉพาะสำหรับกิจการเพื่อให้ตรวจสอบรายการภาษีและบัญชีได้ง่ายและแม่นยำ

 

2. ใช้โปรแกรมบัญชีที่มีระบบภาษีในตัว โปรแกรมบัญชีสมัยใหม่จะช่วยคำนวณภาษีซื้อ-ภาษีขายและหัก ณ ที่จ่ายได้อัตโนมัติ ลดความผิดพลาดจากการคำนวณด้วยมือและช่วยให้สามารถยื่นแบบภาษีได้ทันเวลา

 

3. ตรวจสอบรายงานภาษีทุกเดือน การตรวจสอบภาษีรายเดือนเช่น ภ.พ.30 หรือ ภ.ง.ด.3, 53 ช่วยป้องกันข้อผิดพลาดก่อนยื่นจริงหากพบความคลาดเคลื่อนจะสามารถแก้ไขได้ทันก่อนถูกสรรพากรเรียกสอบย้อนหลัง

 

4. จัดเก็บเอกสารบัญชีและภาษีอย่างเป็นระบบ ใบกำกับภาษีใบเสร็จ ใบสำคัญรับ-จ่าย ต้องจัดเก็บเรียงตามเดือนและประเภทให้ค้นหาได้ง่าย เอกสารเหล่านี้คือหลักฐานสำคัญในการพิสูจน์ความถูกต้องของรายการบัญชีต่อกรมสรรพากร

 

5. ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ สำนักงานบัญชีที่มีความรู้และประสบการณ์จะสามารถให้คำแนะนำได้ทั้งเรื่องบัญชีภาษี และการวางแผน ช่วยให้ SME ประหยัดภาษีได้อย่างถูกต้องและลดความเสี่ยงในการถูกตรวจสอบภาษีย้อนหลัง

 

การเตรียมตัวก่อนยื่นงบการเงินและภาษีสิ้นปี

ช่วงสิ้นปีถือเป็นเวลาที่ธุรกิจมักเกิดความผิดพลาดเรื่องภาษีมากที่สุดควร

 

  • ตรวจสอบรายรับ–รายจ่าย กับบัญชีธนาคาร
  • ปรับปรุงยอดสินค้าคงเหลือ ค่าเสื่อม และหนี้ค้างจ่าย
  • รวบรวมเอกสารทรัพย์สิน และภาระหนี้สิน
  • ตรวจสอบเอกสารภาษีให้ครบ และหักภาษีถูกต้องตลอดปี
  • ตรวจงบการเงินเบื้องต้นเพื่อเตรียมยื่น ภ.ง.ด.50 ได้อย่างถูกต้อง

 

แนวโน้มและการเปลี่ยนแปลงด้านภาษีที่ SME ควรรู้

 

  • ระบบ e-Filing และ e-Withholding Tax กลายเป็นภาคบังคับในหลายกรณี
  • กรมสรรพากรเข้มงวดเรื่องเงินสด การโอนเงินและธุรกรรมระหว่างบริษัทในเครือ
  • การจัดเก็บ VAT สำหรับบริการดิจิทัลจากต่างประเทศ
  • การตรวจสอบภาษีของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เช่น Shopee, Lazada มีความเข้มงวดมากขึ้น


ปรึกษางานบัญชีภาษี คลิก




เจ้าของธุรกิจต้องรู้ทันกฎหมาย เพื่อไม่ให้เสียภาษีผิด หรือเสียสิทธิ

 

  • ตรวจสอบบัญชีภาษีเบื้องต้นด้วยตนเอง (SME ก็ทำได้)
  • ตรวจยอดรายได้จากใบเสร็จว่าตรงกับเงินเข้าบัญชี
  • ตรวจใบกำกับภาษีว่าครบ ถูกต้อง และลงวันที่ชัดเจน
  • ตรวจการหักภาษี ณ ที่จ่ายว่าได้หักและนำส่งหรือยัง
  • ตรวจรายงานภาษีซื้อ–ขายว่าสอดคล้องกับบัญชี
  • ตรวจใบเสร็จ ใบสำคัญจ่าย ว่าจัดเก็บเป็นหมวดหมู่หรือไม่
  • หากพบความผิดปกติควรปรึกษาผู้ทำบัญชีทันที

 

ตัวอย่าง SME ที่เคยเจอปัญหาจริง

 

ร้านอาหารแห่งหนึ่งมีรายได้ต่อปีเกิน 1.8 ล้านบาท แต่ไม่เคยจด VATและไม่เคยออกใบกำกับภาษีที่ถูกต้อง

ภายหลังถูกตรวจสอบจากสรรพากรย้อนหลัง 2 ปีต้องจ่ายภาษีพร้อมดอกเบี้ยและเบี้ยปรับเกือบแสนบาท

หลังจากปรึกษากับ “สำนักงานบัญชี พีทูพี” ทางทีมได้ช่วย

 

  • ตรวจสอบเอกสารย้อนหลัง
  • เจรจากับเจ้าหน้าที่สรรพากร
  • วางแผนภาษีใหม่
  • ออกแบบระบบเอกสารใหม่ทั้งระบบ

 

ผลลัพธ์คือสามารถลดภาระภาษีและหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อชื่อเสียงของร้านได้


ปรึกษางานบัญชีภาษี คลิก




บริการของสำนักงานบัญชี พีทูพี สำหรับ SME

 

1. วางระบบบัญชีที่เหมาะสมกับธุรกิจ ช่วยออกแบบระบบบัญชีให้สอดคล้องกับประเภทกิจการรายรับ-รายจ่าย และโครงสร้างภาษี เพื่อให้สามารถบันทึกรายการได้ถูกต้องตั้งแต่ต้นและรองรับการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว


2. บันทึกบัญชีรายเดือน และยื่นภาษีตรงเวลา จัดทำบัญชีรายเดือนตามมาตรฐานพร้อมยื่นแบบภาษีรายเดือนอย่างครบถ้วนและไม่พลาดกำหนด ลดโอกาสการโดนปรับหรือเงินเพิ่มและเพิ่มความน่าเชื่อถือของกิจการ


3. ตรวจสอบเอกสารภาษีก่อนยื่น ลดความเสี่ยงจากการผิดพลาด ตรวจสอบใบกำกับภาษีภ.ง.ด. และรายงานต่าง ๆ ให้ครบถ้วนก่อนยื่น ช่วยป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจนำไปสู่การถูกตรวจสอบย้อนหลังหรือเสียสิทธิ์ทางภาษี


4. ให้คำปรึกษาด้านภาษี การวางแผน และการควบคุมต้นทุน ให้คำแนะนำเรื่องภาษีเฉพาะกิจการเช่น ลดหย่อน หักค่าใช้จ่าย และบริหารต้นทุนให้คุ้มค่า เพื่อให้ SMEประหยัดภาษีได้อย่างถูกต้องและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารเงินสด

 

5. ช่วยจัดการแก้ไขบัญชีที่ไม่เรียบร้อยจากรอบปีก่อน วิเคราะห์บัญชีเดิมที่มีปัญหาเช่น รายการตกหล่น หรือภาษียื่นผิดแบบ แล้วช่วยแก้ไขให้ถูกต้อง พร้อมวางแผนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเดิมซ้ำในรอบบัญชีถัดไป

 

สำนักงานบัญชี พีทูพีไม่ใช่แค่ผู้ทำบัญชี แต่คือ “คู่คิดทางธุรกิจ” ที่คุณวางใจได้


ปรึกษางานบัญชีภาษี คลิก




สรุป SME ที่เข้าใจบัญชีภาษีอากร จะได้เปรียบอย่างยั่งยืน

 

  1. การทำบัญชีภาษีอากรให้ถูกต้องไม่ใช่แค่เรื่องป้องกันการถูกปรับ
  2. แต่คือการสร้างโครงสร้างธุรกิจที่มั่นคง โปร่งใสและเติบโตได้ในระยะยาว
  3. หากคุณยังไม่มั่นใจว่าวันนี้บัญชีภาษีของคุณเป็นอย่างไร
  4. อย่ารอให้ปัญหาเกิดก่อน แล้วค่อยแก้

 

สำนักงานบัญชี พีทูพี พร้อมให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพตั้งแต่ธุรกิจเริ่มต้นจนเติบโต


ปรึกษางานบัญชีภาษี คลิก




บทความที่น่าสนใจ