ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม สิทธิที่ต้องรู้ เข้าใจง่าย
ภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษีที่ผู้ประกอบการจ่ายแต่รู้หรือไม่ว่าคุณสามารถขอคืนได้หากมีสิทธิ์ การขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ถูกต้องช่วยให้ธุรกิจมีเงินทุนหมุนเวียนมากขึ้น
หากไม่แน่ใจเรื่องเอกสารและขั้นตอน สำนักงานบัญชี พีทูพีพร้อมให้คำปรึกษาแนะนำแบบมืออาชีพ
ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มคืออะไร?
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เป็นภาษีที่ผู้ประกอบการเก็บจากลูกค้าและนำส่งให้กับกรมสรรพากรอย่างไรก็ตาม ในบางกรณี ผู้ประกอบการสามารถขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ได้จ่ายไปได้
หากมีหลักฐานและเข้าเงื่อนไขที่กำหนด การขอคืน VAT ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มกระแสเงินสดให้กับธุรกิจจึงเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญ
ใครบ้างที่สามารถขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มได้?
- ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หากภาษีซื้อสูงกว่าภาษีขายสามารถขอคืนส่วนต่างได้
- ผู้ส่งออกสินค้าและบริการ เนื่องจากการส่งออกได้รับยกเว้นภาษีจึงสามารถขอคืนภาษีซื้อที่เกิดขึ้นได้
- องค์กรที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น หน่วยงานภาครัฐ องค์กรไม่แสวงหากำไรหรือมูลนิธิที่ได้รับสิทธิพิเศษ
- นักท่องเที่ยวต่างชาติ สามารถขอคืน VAT จากสินค้าที่ซื้อในประเทศไทยได้โดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด
ปรึกษางานภาษี
โทรศัพท์ : 097 236 2994
Add Line : p2pacc
สำนักงานบัญชี พีทูพี ยินดีให้บริการผู้ประกอบการธุรกิจทุกท่าน
เงื่อนไขและหลักเกณฑ์สำคัญในการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
1. ต้องเป็นผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ประกอบการที่สามารถขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ต้องมีการจดทะเบียน VAT อย่างถูกต้องกับกรมสรรพากรซึ่งหมายถึงต้องมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีและมีสถานะเป็นผู้เสียภาษี VAT
2. ต้องมีเอกสารใบกำกับภาษีที่ถูกต้อง ใบกำกับภาษีต้องออกโดยผู้ขายที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม มีรายละเอียดครบถ้วน เช่นชื่อ-ที่อยู่ของผู้ซื้อและผู้ขาย เลขประจำตัวผู้เสียภาษี รายละเอียดสินค้า/บริการและจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ชำระไป
3. ภาษีซื้อที่ขอคืนต้องเป็นภาษีที่เกี่ยวข้องกับกิจการที่เสีย VAT ภาษีซื้อที่นำมาขอคืนได้ต้องเกี่ยวข้องโดยตรงกับการดำเนินธุรกิจที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเช่น วัตถุดิบที่ใช้ผลิตสินค้า หรือบริการที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจหากเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวหรือค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจอาจไม่ได้รับอนุญาตให้ขอคืน
4. ต้องยื่นขอคืนภายในระยะเวลาที่กำหนด ผู้ประกอบการต้องยื่นคำร้องขอคืนภาษีภายในกำหนดระยะเวลาตามรอบภาษีที่ยื่นแบบภ.พ.30 ซึ่งโดยปกติจะเป็นรายเดือนหากพลาดระยะเวลาที่กำหนดอาจเสียสิทธิ์ในการขอคืนภาษี
5. ไม่มีภาระภาษีค้างชำระกับกรมสรรพากร หากมีภาษีที่ยังไม่ได้ชำระหรือมีปัญหาด้านภาษีค้างคากรมสรรพากรอาจไม่อนุมัติการขอคืนภาษีจนกว่าจะมีการแก้ไขให้เรียบร้อย
ขั้นตอนการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ตรวจสอบยอดภาษีซื้อและภาษีขาย หากภาษีซื้อมากกว่าภาษีขายสามารถขอคืนส่วนต่างได้
- จัดเตรียมเอกสารที่จำเป็น ใบกำกับภาษีซื้อ รายงานภาษีซื้อ-ภาษีขาย แบบ ภ.พ.30 ที่ยื่นประจำเดือน
- หนังสือรับรองการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ยื่นคำขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบออนไลน์ของกรมสรรพากรหรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่
- รอการตรวจสอบจากกรมสรรพากร
- กรมสรรพากรอาจขอเอกสารเพิ่มเติมหรือเข้าตรวจสอบสถานประกอบการ
- รับเงินคืนภาษี หากเอกสารถูกต้อง ครบถ้วนและผ่านการตรวจสอบ เงินคืนจะถูกโอนเข้าบัญชีของผู้ประกอบการ
ปรึกษางานภาษี
โทรศัพท์ : 097 236 2994
Add Line : p2pacc

ระยะเวลาการดำเนินการและการติดตามผล
ระยะเวลาการดำเนินการ
โดยทั่วไปการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มใช้เวลาขึ้นอยู่กับความถูกต้องของเอกสารและการตรวจสอบของกรมสรรพากร หากมีการตรวจสอบเพิ่มเติมจากกรมสรรพากรอาจใช้เวลาเพิ่มขึ้นตามกระบวนการตรวจสอบ
วิธีติดตามผลการขอคืนภาษี
สามารถตรวจสอบสถานะการขอคืนภาษีผ่านระบบ e-Filing ของกรมสรรพากร หรือสอบถามที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ หากการพิจารณาล่าช้าสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ควรเก็บหลักฐานการยื่นคำขอคืนภาษีไว้เผื่อกรณีที่ต้องใช้ยืนยันข้อมูลกับกรมสรรพากร
เคล็ดลับในการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
ตรวจสอบใบกำกับภาษีให้ถูกต้องทุกครั้งก่อนขอคืน
ใบกำกับภาษีต้องมีรายละเอียดครบถ้วนเช่น ชื่อ-ที่อยู่ของผู้ขายและผู้ซื้อ, เลขประจำตัวผู้เสียภาษี, วันที่ออกใบกำกับภาษี และรายการสินค้า/บริการ หากพบข้อผิดพลาดอาจทำให้กรมสรรพากรปฏิเสธการขอคืนภาษี
จัดทำบัญชีและรายงานภาษีให้เป็นระเบียบเพื่อลดปัญหาการตรวจสอบ
การบันทึกบัญชีอย่างถูกต้องและการเก็บรายงานภาษีซื้อ-ภาษีขายอย่างเป็นระบบช่วยให้กระบวนการขอคืนภาษีเป็นไปอย่างราบรื่น ลดโอกาสที่กรมสรรพากรจะขอตรวจสอบเพิ่มเติม
ใช้ซอฟต์แวร์บัญชีช่วยจัดการข้อมูลภาษีให้แม่นยำ
โปรแกรมบัญชีสามารถช่วยคำนวณยอดภาษีซื้อ-ภาษีขายลดความผิดพลาดจากการคำนวณด้วยมือ ทำให้การยื่นขอคืนภาษีมีความแม่นยำมากขึ้น
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีภาษีเพื่อลดข้อผิดพลาด
การมีที่ปรึกษาด้านบัญชีภาษีที่มีประสบการณ์ช่วยให้มั่นใจว่าการขอคืนภาษีเป็นไปตามข้อกำหนดของกรมสรรพากรและสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจ
ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วไม่ได้รับเงินคืนอาจเกิดจากสาเหตุต่อไปนี้
1. เอกสารไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง เช่น ใบกำกับภาษีมีข้อมูลผิดพลาด หรือขาดเอกสารที่จำเป็นกรมสรรพากรอาจปฏิเสธคำขอคืนภาษีหรือขอให้ส่งเอกสารเพิ่มเติม
2. มีภาษีค้างชำระ หากธุรกิจของคุณมีภาระภาษีที่ยังไม่ได้ชำระกรมสรรพากรอาจใช้ยอดภาษีที่ขอคืนไปหักลบกับยอดค้างชำระก่อน
3. อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม หากกรมสรรพากรพิจารณาว่าธุรกรรมมีความซับซ้อน หรือพบข้อสงสัยอาจใช้เวลาตรวจสอบนานขึ้น
4. การยื่นคำขอล่าช้า การขอคืนภาษีต้องอยู่ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากยื่นช้าอาจทำให้กระบวนการล่าช้าหรือถูกปฏิเสธ
5. ใบกำกับภาษีมีข้อผิดพลาด ข้อมูลในใบกำกับภาษีไม่ถูกต้อง เช่น ชื่อบริษัท ที่อยู่หรือเลขประจำตัวผู้เสียภาษีผิดพลาด อาจทำให้กรมสรรพากรไม่รับพิจารณาคำขอคืนภาษี
6. ถูกกรมสรรพากรตรวจสอบเพิ่มเติม หากกรมสรรพากรพบความผิดปกติ เช่นยอดภาษีที่ขอคืนสูงผิดปกติ เอกสารไม่ครบถ้วน หรือมียอดภาษีที่ยังค้างชำระอาจต้องเข้าตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม
ปรึกษางานภาษี
โทรศัพท์ : 097 236 2994
Add Line : p2pacc
ดูบริการรับทำบัญชี ราคาประหยัด
แนวทางการเตรียมความพร้อมเพื่อให้ขอคืนภาษีในอนาคต
การบริหารจัดการเอกสารทางบัญชี
- ควรเก็บเอกสารทางบัญชีทั้งหมดอย่างเป็นระบบเช่น ใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน และรายงานภาษีเพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ง่ายเมื่อจำเป็น
- ควรจัดทำสำเนาเอกสารสำคัญและเก็บไฟล์อิเล็กทรอนิกส์สำรองไว้ในระบบคลาวด์หรือเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทเพื่อป้องกันการสูญหาย
- กำหนดระยะเวลาการจัดเก็บเอกสารให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของกรมสรรพากรและสามารถเรียกใช้ได้สะดวกเมื่อต้องการยื่นขอคืนภาษี
กรณีถูกปฏิเสธคำขอคืนภาษี
1.หากเอกสารที่ใช้ขอคืนภาษีมีข้อผิดพลาด เช่น ใบกำกับภาษีไม่ถูกต้อง ข้อมูลไม่ตรงกัน หรือขาดเอกสารสำคัญกรมสรรพากรอาจปฏิเสธคำขอคืนภาษีได้
2.หากพบว่ามียอดภาษีที่ขอคืนสูงผิดปกติ อาจถูกเรียกตรวจสอบเพิ่มเติมและอาจไม่ได้รับอนุมัติคืนภาษี
3.วิธีแก้ไข ตรวจสอบและยื่นเอกสารให้ครบถ้วน ตั้งแต่แรกหากถูกปฏิเสธควรแก้ไขข้อผิดพลาดและยื่นคำขอใหม่ให้ถูกต้อง
บทลงโทษหากยื่นเอกสารเท็จ
1. กรณีผู้ประกอบการยื่นเอกสารปลอมหรือแจ้งข้อมูลที่เป็นเท็จเพื่อขอคืนภาษี กรมสรรพากรมีสิทธิ์ดำเนินคดีตามกฎหมาย
2. โทษทางกฎหมายอาจรวมถึงโทษปรับและโทษจำคุกขึ้นอยู่กับระดับความผิด
3. ผู้ประกอบการที่มีเจตนาหลบเลี่ยงภาษีโดยใช้เอกสารปลอมอาจถูกตรวจสอบย้อนหลังและถูกเรียกเก็บภาษีพร้อมค่าปรับ
4. วิธีแก้ไข ยื่นขอคืนภาษีด้วยความโปร่งใสใช้เอกสารที่ถูกต้องและเป็นจริงเพื่อลดความเสี่ยงทางกฎหมาย
ค่าปรับที่อาจเกิดขึ้นจากการขอคืนภาษีที่ไม่ถูกต้อง
1.หากขอคืนภาษีโดยไม่มีหลักฐานที่ถูกต้องอาจถูกปรับสูงสุด สองเท่าของจำนวนภาษีที่ขอคืน ตามมาตรา 90 แห่งประมวลรัษฎากร
2.กรณีที่ยื่นขอคืนภาษีโดยจงใจให้ข้อมูลผิดอาจถูกปรับเพิ่มเติมและอาจถูกดำเนินคดีทางอาญา
3.หากขอคืนภาษีโดยใช้ใบกำกับภาษีที่เป็นเท็จอาจถูกปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
4.วิธีแก้ไขตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารและดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับและปัญหาทางกฎหมายในอนาคต
ปรึกษางานภาษี
โทรศัพท์ : 097 236 2994
Add Line : p2pacc
รายละเอียด ราคา, ราคาUpgrade โปรแกรม Express
สรุปการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)
เป็นสิทธิของผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มหากมีภาษีซื้อมากกว่าภาษีขาย หรือเป็นผู้ส่งออกสินค้าและบริการกระบวนการขอคืนภาษี
ต้องมีเอกสารครบถ้วน เช่น ใบกำกับภาษี รายงานภาษีซื้อ-ภาษีขายและแบบ ภ.พ.30 โดยสามารถติดตามผลผ่านระบบ e-Filing ของกรมสรรพากร
หากเอกสารไม่ถูกต้องหรือขอคืนภาษีเกินจริงอาจถูกตรวจสอบเพิ่มเติมควรจัดทำบัญชีให้เป็นระบบและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อเพิ่มโอกาสได้รับเงินคืนเร็วขึ้น