รับวางระบบบัญชี ธุรกิจก่อสร้าง
บริการที่ตอบโจทย์ เจ้าของธุรกิจก่อสร้างการันตีเห็นผล !!!
สำนักงานบัญชี พีทูพี บริการทางบัญชี รับวางระบบบัญชี ธุรกิจก่อสร้าง คือ ปฏิบัติงานวางระบบบัญชีให้กับธุรกิจก่อสร้าง ให้ถูกต้องตามกฏหมาย กรมพัฒน์ฯ, สรรพากร และวิชาชีพบัญชี
เพื่อให้ระบบบัญชีของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเป็นไปอย่างถูกต้อง วางระบบวิธีการคำนวณภาษี การยื่นชำระภาษีสะดวกและตรงตามเวลาที่กำหนดตามกฎหมาย
บริการที่เรียกว่า รับวางระบบบัญชี ธุรกิจก่อสร้าง ให้กับธุรกิจก่อสร้าง เพื่อเข้ามาจัดการระบบบัญชี ดูแลทุกขั้นตอน และเอกสารที่เกี่ยวข้องให้
แนะนำอ่านบริการรับวางระบบบัญชี
ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง
ธุรกิจดำเนินงานรับเหมาโครงการก่อสร้างอาคาร โครงการสร้างถนน สร้างเขื่อนสะพาน ซึ่งมักใช้ระยะเวลา
ในการก่อสร้างโครงการต่าง ๆ เป็นเวลานานกว่า 1 รอบระยะเวลาบัญชี ทำให้กิจการรับเหมาก่อสร้างต้องมี
หลักเกณฑ์ในการบันทึกบัญชีและภาษีอากรแตกต่างกันไปจากธุรกิจอื่น ๆ รับวางระบบบัญชี ธุรกิจก่อสร้าง
สามารถจัดการได้ ทั้งธุรกิจก่อสร้างขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ สามารถประยุกต์ระบบงานได้กับโปรแกรมบัญชีต่าง ๆ
โดยสามารถวางระบบบัญชี ปรับรูปแบบ การดำเนินงานบัญชีภาษีของธุรกิจ ให้ตรงตามระเบียบและวิธีการทางกฏหมายและรอบระยะเวลาบัญชี
ขั้นตอนการรับวางระบบบัญชีธุรกิจก่อสร้าง
1.เก็บข้อมูล ทำความเข้าใจข้อมูล และรายละเอียดของธุรกิจก่อสร้าง
เป็นการเก็บข้อมูล ผังองค์กร นโยบายบริษัท รายละเอียดสินค้า หรือ บริการ การปฏิบัติงานของธุรกิจก่อสร้างทั้งหมด เพื่อนำมาใช้ในการออกแบบวางระบบบัญชีได้
2.ออกแบบการวางระบบบัญชีและระบบการควบคุมภายในกิจการ
เก็บข้อมูลแล้ว ก็ทำความเข้าใจรายละเอียดของธุรกิจก่อสร้าง แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์ วางระบบการทำงานให้มีความเหมาะสม
ทำการเปรียบเทียบกับระบบงานเดิมของกิจการเพื่อให้เห็นจุดของระบบงานที่ต้องดำเนินการแก้ไข เสนอแนวทางในการปรับปรุงระบบการทำงานใหม่
3.การปฏิบัติงานตามระบบที่วางไว้อย่างถูกขั้นตอน
อธิบายขั้นตอนการวางระบบให้กับพนักงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เข้าใจถึงบทบาท และหน้าที่ ความรับผิดชอบของแต่ละคน ก่อนเริ่มปฏิบัติงานจริง
4.ติดตามผลและปรับปรุงระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพ
หลังจากนำระบบบัญชีที่วางไว้ไปปฏิบัติงานจริงระยะเวลาหนึ่ง จะมีการติดตามผลการปฏิบัติงานจริงได้
เป็นไปตามที่วางไว้ถูกต้องครบถ้วนทุกขั้นตอนหรือไม่ มีส่วนไหนที่จะต้องทำการปรับปรุงให้เหมาะสมต่อไป
อ่านทำบัญชีเองหรือจ้างสำนักงานบัญชี
การวางแผนภาษี
การจัดการวางระบบบัญชี ธุรกิจก่อสร้าง จะต้องมีเรื่องของการวางแผนภาษีเกี่ยวกับธุรกิจด้วยเช่นกัน ดังนั้น บริษัทที่ รับวางระบบบัญชี ธุรกิจก่อสร้าง จะเป็นผู้ดำเนินการให้ทั้งหมด ซึ่งภาษีที่ว่านั้นมีอะไรบ้าง
ภาษีเงินได้นิติบุคคล
กิจการจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ที่ผู้ประกอบการเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด นิติบุคคล บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด
หรือ บริษัทที่ได้รับการจดทะเบียนหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
1.โดยการคำนวณรายได้และรายจ่างให้ใช้เกณฑ์สิทธิ
2.ฐานภาษี ครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี และ สิ้นรอบระยะเวลาบัญชี
3.อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลในการคำนวณภาษีจากฐานกำไรสุทธิ
4.การยื่นแบบแสดงรายการ ได้แก่
**ภ.ง.ด.51 – ภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งรอบระยะเวลาบัญชีแรก ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล ภ.ง.ด. 51 ภายในสองเดือน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาหกเดือนนับแต่วันแรกของรอบระยะเวลาบัญชี
**ภ.ง.ด.50 – ภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับรอบระยะเวลาบัญชี ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล ภ.ง.ด.50 ภายใน 150 วันนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี
ภาษีมูลค่าเพิ่ม
เป็นภาษีที่เกิดจากการขายสินค้าและการให้บริการ ที่ผู้ประกอบการ ผู้ผลิต บวกเพิ่มในต้นทุนสินค้าหรือบริการ เพื่อกำหนดเป็นราคาขายสินค้าหรือบริการ
ภาษีขาย – ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการได้เรียกเก็บ หรือ พึงเรียกเก็บจากผู้ซื้อ หรือ ผู้รับบริการ
ภาษีซื้อ – ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการได้จ่ายไปให้กับผู้ขายสินค้า หรือ ผู้ให้บริการ ภาษีซื้อที่จะนำมาหักได้นี้ให้รวมถึงภาษีซื้อของสินค้าประเภททุนด้วย
1.ความรับผิดในการเสียภาษี
การขายสินค้า – ให้ความรับผิดทั้งหมด เกิดขึ้นเมื่อส่งมอบสินค้า และ การให้บริการ – ให้ความรับผิดทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อได้รับชำระค่าบริการ
2.ฐานภาษี
ได้แก่มูลค่าทั้งหมดรวมถึง เงิน ทรัพย์สิน ค่าตอบแทน ค่าบริการ หรือประโยชน์ใด ๆ ซึ่งอาจคิดคำนวณได้เป็นจำนวนเงินที่ผู้ประกอบการได้รับ หรือ พึงได้รับจากการขายสินค้าและการให้บริการ
3.การออกใบกำกับภาษี
ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนจัดทำใบกำกับภาษีและสำเนาใบกำกับภาษี สำหรับการขายสินค้าหรือการให้บริการทุกครั้ง และต้องจัดทำในทันทีที่ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้น
พร้อมทั้งส่งมอบใบกำกับภาษีนั้นแก่ผู้ซื้อสินค้าหรือบริการ สำหรับสำเนาใบกำกับภาษีให้เก็บรักษาไว้ตามมาตร 86 และมาตรา 87/3 แห่งประมวลรัษฎากร
4.การจัดทำรายงานและเก็บรักษาเอกสาร
ผู้ประกอบการจดทะเบียน มีหน้าที่จัดทำรายงานเกี่ยวกับการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม มาตรา 87 แห่งประมวลรัษฎากร คือ รายงานภาษีขาย รายงานภาษีซื้อ รายงานสินค้าและวัตถุดิบ
5.การเฉลี่ยภาษีซื้อ
6.เครดิตภาษี หรือ การขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
7.การคำนวณภาษี
8.การยื่นแบบแสดงรายการ
บริการรับทำบัญชียื่นภาษี
ภาษีธุรกิจเฉพาะ
1.กรณีกิจการจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เมื่อมีการให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินต้องมีการคำนวณดอกเบี้ยรับเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ และต้องนำดอกเบี้ยรับดังกล่าวมาเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา 91/2(5) แห่งประมวลรัษฎากร
2.การขายอสังหาริมทรัพย์ที่ผู้ขายมีไว้ในการประกอบกิจการเฉพาะของนิติบุคคลตามมาตรา 77/1 แห่งประมวลรัษฎากร ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฏากร
ว่าด้วยการขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นทางการค้าหรือหากำไร (ฉบับที่ 32) พ.ศ.2541 ชำระภาษีในขณะจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์นั้น
3.การคำนวณภาษีนำรายรับก่อนหักรายจ่ายใด ๆ ที่ได้รับในเดือนภาษี มาคำนวณภาษีในอัตราร้อยละตามมาตรา 91/6 แห่งประมวลรัษฎากร
ผลลัพธ์ที่คำนวณได้จะเป็นภาษีที่ต้องชำระ และจะต้องเสียภาษีให้องคต์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มอีกร้อยละ 10 ของอัตราภาษีที่จัดเก็บตามประมวลรัษฏากร
4.การยื่นแบบแสดงรายการให้ผู้ประกอบการยื่นแบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะ ภ.ธ.40 พร้อมกับชำระภาษีเป็นรายเดือนทุกเดือนภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
บริการรับวางแผนภาษี
ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
กิจการจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เมื่อมีการรับและจ่ายเงินจากการประกอบกิจการ ต้องพิจารณาว่าเป็นเงินได้พึงประเมินประเภทใด อยู่ในบังคับต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ได้แก่
1.ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) และ (2) แห่งประมวลรัษฏากร ต้องคำนวณภาษีหักภาษี ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50 แห่งประมวลรัษฏากร
2.ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(2) (3) (4) (5) (6) (7) และ (8) แห่งประมวลรัษฏากร ต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายตามอัตราภาษีในมาตรา 3 เตรส
แห่งประมวลรัษฏากรและมาตรา 50 แห่งประมวลรัษฏากร กฎกระทรวงฉบับที่ 144 (พ.ศ.2522) ให้ไว้ ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2522 และคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป.4/2528 สั่ง ณ วันที่ 26 กันยายน 2528
3.กรณีผู้รับเป็นบุคคลธรรมดา ซึ่งมิได้เป็นผู้อยู่ในประเทศไทย บริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ มิได้ประกอบกิจการ
ในประเทศไทย แต่ได้รับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(2) (3) (4) (5) หรือ (6) แห่งประมวลรัษฏากร ที่จ่ายจากหรือในประเทศไทย
ต้องคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50(1) วรรท้าย มาตรา 50(2) (ก) และมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฏากรแล้วแต่กรณี
4.เงินได้พึงประเมินมาตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฏากร เฉพาะที่เป็นการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ต้องมีการคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย
และนำส่งพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ในขณะที่มีการจดทะเบียนตามมาตรา 69 ตรีแห่งประมวลรัษฏากร
.jpg)
.jpg)
อากรแสตมป์
กิจการจำหน่ายวัสดุก่อสร้างได้ทำสัญญา หรือ ตราสารที่เข้าลักษณะต้องติดอากรแสดมป์ ตามมาตรา 103 มาตรา 104 และบัญชีอากรแสตมป์ แห่งประมวลรัษฏากร เช่น
1.การให้เช่าที่ดิน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น หรือ เช่าซื้อทรัพย์สิน ยกเว้น เช่าทรัพย์สิน หรือ เช่าซื้อทรัพย์สินใช้ในการทำนา ไร่ สวน ผู้เช่ามีหน้าที่เสียค่าอากรแสตมป์ 1 บาท ต่อจำนวนเงิน 1000 บาท หรือเศษของ 1000 บาท แห่งค่าเช่าหรือเงินกินเปล่า หรือทั้งสองอย่างรวมกันตลอดอายุการเช่า
2.การจ้างทำของ ยกเว้นสัญญาที่ทำขึ้นนอกประเทศไทย และ การปฏิบัติตามข้อสัญญานั้น มิได้ทำในประเทศไทย ผู้รับจ้างมีหน้าที่เสียค่าอากรแสตมป์ 1 บาทต่อจำนวนเงิน 1000 บาท หรือ เศษของเงิน 1000 บาทแห่งสินจ้างที่กำหนดไว้
3.กู้ยืมเงิน ผู้ให้กู้มีหน้าที่เสียค่าอากรแสตมป์ 1 บาทต่อจำนวนเงิน 2000 บาท หรือเศษของเงิน 2000 บาท แห่งยอดเงินที่กู้ยืม ค่าอากรตามลักาณะแห่งตราสารนี้ เมื่อคำนวณแล้วถ้าเกิน 10000 บาท ให้เสีย 10000 บาท

